เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เจมส์ แมตทิส ให้คำมั่นในวันนี้ (29) ว่าจะรักษาและส่งเสริมความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับญี่ปุ่นท่ามกลางความกังวลว่า การเจรจากับเกาหลีเหนืออาจทำให้พันธกิจด้านความมั่นคงของวอชิงตันในภูมิภาคนี้ลดน้อยลง
แมตทิส กล่าวว่า สหรัฐฯและพันธมิตรในภูมิภาคจะรักษา “จุดยืนด้านความมั่นคงร่วมอันเข้มแข็ง” ต่อเกาหลีเหนือ และญี่ปุ่นจะยังคงเป็นแก่นกลางของเสถียรภาพในภูมิภาค
ในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น แมตทิสพยายามคลายความกังวลของโตเกียวที่ว่า ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของพวกเขาอาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะบรรลุข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์กับผู้นำคิม จองอึน ของเกาหลีเหนือ
“ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการเจรจาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกับเกาหลีเหนือ แต่ในช่วงเวลาความตื่นตัวนี้ ความเป็นพันธมิตรยาวนานระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯยังคงเหมือนเดิม” แมตทิส ยืนยันกับ อิตสึโนริ โอโนดะ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น
“มีเครื่องรับประกันระหว่างสองเราว่าเรายังคงอยู่ในจุดยืนเดิม” เขาให้คำมั่น
เหล่าพันธมิตรในภูมิภาคต่างตกตะลึงกับการประกาศของทรัมป์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนว่าจะระงับการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นมาตรจำเป็นเพื่อยับยั้งภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
ภายหลังการประชุมซัมมิทครังประวัติศาสตร์ในสิงคโปร์ระหว่างทรัมป์และคิม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เขาต้องการระงับการซ้อมรบ โดยอธิบายว่ามันฟุ่มเฟือยและเป็นการยั่วยุ แต่พันธมิตรของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะไม่ได้รับทราบล่วงหน้า
แมตทิสกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเว้นช่องว่างให้นักการทูตของเราเจรจาต่อรองได้อย่างหนักแน่นและเพิ่มโอกาสสร้างทางออกอย่างสันติในคาบสมุทรแห่งนี้
“ในขณะเดียวกัน เรายังคงรักษาจุดยืนความมั่นคงร่วมอันเข้มแข็งเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่า นักการทูตของเราจะเจรจาด้วยจุดยืนหนักแน่นอย่างไร้ข้อกังขา” เขากล่าว
โอโนเดระ กล่าวว่า การฝึกซ้อมมีความสำคัญสำหรับเสถียรภาพในภูมิภาค แต่ยอมรับว่า การตัดสินระงับการฝึกซ้อมมีประโยชน์สำหรับความพยายามทางการทูตเพื่อให้คิมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
