เอเอฟพี - ผู้นำคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเดินทางไปเยือนปักกิ่งวันนี้ (19 มิ.ย.) โดยคาดว่าจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อแจ้งผลการประชุมซัมมิตกับผู้นำสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติจีนรายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือจะเยือนจีนเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 19-20 มิ.ย.ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ และเกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่ คิม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.
รัฐบาลจีนได้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดตลอดเส้นทางที่มุ่งสู่สนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่งตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะเดินทางไปถึง
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่กรุงเปียงยางรายงานว่า เที่ยวบินระหว่างประเทศของสายการบิน แอร์ คอร์โย (Air Koryo) ออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อผู้นำคิมเดินทาง
หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่น ระบุว่า ผู้นำคิมหวังที่จะให้สหรัฐฯ ยอมบรรเทามาตรการคว่ำบาตรเพื่อแลกกับคำมั่นสัญญาปลดอาวุธนิวเคลียร์ และคงต้องการให้จีนช่วยสนับสนุนด้วยอีกแรงหนึ่ง
รัฐบาลจีนได้เสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติพิจารณาผ่อนคลายบทลงโทษทางเศรษฐกิจให้แก่เกาหลีเหนือ ภายหลังบรรยากาศการหารือระหว่าง คิม กับ ทรัมป์ ที่สิงคโปร์เป็นที่น่าพอใจ
แม้ไม่ได้มีบทบาทโดยตรง แต่เป็นที่รู้กันดีว่าจีนมีอิทธิพลไม่น้อยอยู่เบื้องหลังการประชุมซัมมิตระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้รุดเดินทางไปเยือนปักกิ่งเพื่อแจ้งความคืบหน้าให้ประธานาธิบดี สี และคณะผู้นำจีนรับทราบทันทีที่การประชุมซัมมิต คิม-ทรัมป์ รูดม่านปิดฉากลง
คำแถลงร่วมระหว่างสองผู้นำที่สิงคโปร์ ระบุว่า คิม ได้ให้สัญญาว่าจะ “ทำงานเพื่อมุ่งไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสมบูรณ์แบบ”
ทรัมป์ ออกมาคุยโวนี่คือการอ่อนข้อของผู้นำคิม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่กลับมองว่าเป็นแค่คำพูดเดิมๆ ที่รัฐบาลโสมแดงใช้มาตลอด และไม่ได้ตอบสนองข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่าง “ตรวจสอบได้ และย้อนกลับไปไม่ได้อีก”
ในทางกลับกัน ทรัมป์ ก็รับปากจะยุติการซ้อมรบร่วมเกาหลีใต้ ซึ่งโสมแดงและปักกิ่งมองว่าเป็นการยั่วยุ
ล่าสุด กองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้แถลงยืนยันวันนี้ (19) ว่าปฏิบัติการซ้อมรบร่วม “อุลชิ ฟรีดอม การ์เดียน” ในเดือน ส.ค. ได้ถูกยกเลิกตามคำสั่งของ ทรัมป์ แล้ว