เอเอฟพี - แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการแยกลูกผู้อพยพจากพ่อแม่ที่ถูกจับกุมขณะกำลังลอบข้ามชายแดนสหรัฐฯและเม็กซิโกอย่างผิดกฎหมายนั้น เป็นสิ่ง “ผิด” ตามความคิดเห็นของจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาในวันพุธ (20 มิ.ย.)
“สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐฯ นั้นผิด” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว “ผมไม่กล้าจินตนาการเลยว่า ครอบครัวทั้งหลายที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางเรื่องนี้จะผ่านพ้นมันไปได้อย่างไร แน่นอนว่ามันไม่ใช่แนวทางที่เราจะทำในแคนาดา”
ทรูโด ยังได้กล่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสระบุว่ามาตรการของสหรัฐฯ “ไม่อาจยอมรับได้”
รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเผชิญเสียงโวยวายอย่างหนักหน่วงทั้งในประเทศและต่างแดนต่อมาตรการแยกลูกผู้อพยพจากพ่อแม่ ตามนโยบาย “อดทนเป็นศูนย์” ต่อคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า มีเด็กมากกว่า 2,300 คนถูกแยกตัวพ่อแม่หรือผู้ปกครองนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อครั้งที่ประกาศใช้นโยบายดังกล่าว
ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นรูปเด็กๆ และเยาวชนนั่งอยู่ในคอกพื้นปูนตามศูนย์พักพิงต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะได้เจอหน้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองอีกครั้ง กระพือความขุ่นเคืองในวงกว้าง แต่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาปกป้องมาตรการดังกล่าวว่าเป็นแนวทางสำหรับคุ้มกันชายแดนและขจัดการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
เมื่อวันอังคาร (19 มิ.ย.) อาห์เมด ฮุนเซน รัฐมนตรีคนเข้าเมืองแคนาดา เตือนว่านโยบายดังกล่าวอาจคุกคามสถานะดินแดนปลอดภัยของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านั้น เขาร่วมกับกระทรวงพัฒนาและต่างประเทศของแคนาดา แสดงจุดยืนสนับสนุนการตั้งรกราใหม่ของผู้อพยพว่ามีความเป็น “ถ้าเลือกได้ไม่มีใครอยากเป็นผู้อพยพหรอก เรามีทุกศักยภาพในการช่วยเหลือผู้อพยพสร้างชีวิตใหม่และปกป้องพวกเขาจากความอดอยากและสงคราม” ถ้อยแถลงระบุ
แคนาดา เป็นประเทศที่อ้าแขนรับผู้ลี้ภัยมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลกเมื่อปีที่แล้ว ด้วยจำนวน 47,800 คน “ตลอดทั้งประวัติศาสตร์ของแคนาดา เราพบเห็นผู้ลี้ภัยและลูกหลานของพวกเขากลายมาเป็นสมาชิกที่ออกดอกออกผลและสนับสนุนเศรษฐกิจของเรา สังคมของเราและวิถีวัฒนธรรมของเรา” ถ้อยแถลงระบุ