รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาขู่เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ว่าจะเรียกเก็บภาษี 10% จากสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มระดับอุณหภูมิสงครามการค้ากับปักกิ่งให้ร้อนระอุยิ่งขึ้นไปอีก
ทรัมป์ แถลงว่า ตนได้สั่งให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลธีเซอร์ ไปจัดทำรายการสินค้าจีนที่จะถูกเก็บภาษีตัวใหม่ โดยเป็นการตอบโต้ที่ปักกิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกัน 50,000 ล้านดอลลาร์
“เมื่อกระบวนการทางกฎหมายเสร็จสมบูรณ์ ภาษีเหล่านี้จะเริ่มมีผลบังคับหากจีนยังไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการค้า และหากพวกเขายังยืนกรานที่จะเรียกเก็บภาษีใหม่อย่างที่ประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้” ทรัมป์ กล่าว
ไลธีเซอร์ ยืนยันว่า สำนักงานของเขา (USTR) กำลังเตรียมแผนรีดภาษีใหม่ตามคำสั่งของทรัมป์ ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามความคิดเห็นจากสาธารณชน (public comment), การทำประชาพิจารณ์ (public hearing) และอาจต้องแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม
เขายังไม่ระบุชัดเจนว่าจะเปิดเผยบัญชีสินค้าจีนที่จะถูกรีดภาษีได้เมื่อใด
วอชิงตันและปักกิ่งเริ่มมุ่งหน้าไปสู่สงครามการค้าอย่างเต็มตัว หลังความพยายามเจรจาเพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนต่างๆ ไม่ประสบผลสำเร็จ เช่น นโยบายอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมของจีน, การขาดโอกาสเข้าถึงตลาดแดนมังกร รวมถึงยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่สูงถึง 375,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (15) ทรัมป์ ประกาศจะเดินหน้ารีดภาษีนำเข้า 25% จากสินค้าจีน 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเหตุให้ปักกิ่งต้องเผยมาตรการตอบโต้
“เห็นได้ชัดว่าจีนไม่คิดที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมในเรื่องการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีของบริษัทอเมริกัน แทนที่จะแก้ไขพฤติกรรมเหล่านั้น พวกเขากลับขู่กรรโชกบริษัทของสหรัฐฯ แรงงาน และเกษตรกรผู้ไม่มีความผิดอะไรเลย” ทรัมป์ กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า หากจีนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกันเพื่อแก้แค้นบทลงโทษของสหรัฐฯ “เราก็จะตอบสนองด้วยการรีดภาษีจากสินค้าจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์”
โฆษกหญิงของ USTR ระบุว่า ทางสำนักงานจะจัดทำบัญชีสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ดอลลาร์ที่จะถูกรีดภาษี 10% โดยนำมาใช้แทนที่บัญชีสินค้า 100,000 ล้านดอลลาร์ซึ่ง ทรัมป์ สั่งให้จัดทำเมื่อต้นเดือน เม.ย. เพื่อตอบโต้ที่จีนสั่งรีดภาษีแก้แค้นสินค้าอเมริกันรอบแรก 50,000 ล้านดอลลาร์
ทรัมป์ อ้างว่าตนมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ “ยอดเยี่ยม” กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และ “พร้อมที่จะร่วมมือกันทำงานในประเด็นต่างๆ ต่อไป”
อย่างไรก็ตาม “สหรัฐอเมริกาจะไม่ยอมถูกจีนหรือประเทศอื่นๆ ในโลกเอารัดเอาเปรียบในเรื่องการค้าอีกต่อไปแล้ว” ทรัมป์ กล่าว
เดเรก ซิสเซอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจากสถาบันกิจการอเมริกัน (American Enterprise Institute) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชี้ว่า อีกไม่นานจีนคงจะไม่มีสินค้าอเมริกันเหลือให้รีดภาษีแก้แค้น เนื่องจากนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ แค่ 130,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ทว่าหลังจากนั้นพวกเขาอาจหันไปแก้เผ็ดเอากับบริษัทอเมริกันในจีนแทน
ซิสเซอร์ส ยังเชื่อว่า แค่คำขู่รีดภาษีของสหรัฐฯ คงไม่ทำให้จีนยอมเปลี่ยนนโยบายภาคอุตสาหกรรมง่ายๆ และสองชาติมหาอำนาจอาจต้องทำสงครามการค้ากันไปอีกนานจนสะบักสะบอมทั้งสองฝ่าย
“อย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่ต้นว่า จีนจะยอมปรับแผนอุตสาหกรรมก็ต่อเมื่อบทลงโทษทางการค้าของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายที่ใหญ่โตและยั่งยืนพอที่จะกระทบต่อการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศ ไม่ใช่แค่คำขู่ลอยๆ”