เอพี/เอเจนซีส์ - ภาพถ่ายภาพหนึ่งซึ่งถูกนำไปเผยแพร่ต่อกันอย่างกว้างขวาง กำลังบอกเล่าอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ณ การประชุมซัมมิตของกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 7)
ภาพถ่ายภาพนั้นซึ่งบันทึกชั่วขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี แสดงออกซึ่ง “ภาษากาย” อันไม่ได้มีความเป็นมิตรต่อกันนี้ กำลังกลายเป็นสัญลักษณ์เครื่องบ่งบอกที่ทรงพลังของการประชุมอันอุดมไปด้วยการทะเลาะโต้เถียงครั้งนี้
ภาพดังกล่าวซึ่งถ่ายเมื่อวันเสาร์ (9 มิ.ย.) โดย เจสโค เดนเซล ช่างภาพของรัฐบาลเยอรมนี แสดงให้เห็นแมร์เคิลกำลังยืนอยู่โดยที่มือทั้งสองข้างของเธอปักหลักหนักแน่นบนโต๊ะพลางเอนตัวจ้องไปที่ทรัมป์ ขณะที่ทรัมป์นั่งอยู่ในท่ากอดอกและตาลุกวาว ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ซึ่งยืนอยู่ถัดจากทรัมป์ ก็เอามือกอดอกเหมือนกัน ส่วนประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ยืนเอนตัวอยู่ถัดจากแมร์เคิล
ผู้ที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวต่อโลกภายนอกคือ สเตฟเฟน ไซเบิร์ต โฆษกของแมร์เคิล ที่โพสต์ภาพทางทวิตเตอร์ จากนั้นไม่นานนัก ทำเนียบขาวก็เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ช่วงนี้อีกภาพหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าทรัมป์กำลังพูด โดยที่แมร์เคิล, อาเบะ และนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา รับฟังอยู่
เว็บไซต์ของข่าวบีบีซีถึงขั้นนำภาพถ่ายของทางเยอรมนีมาแยกแยะแจกแจง ด้วยการระบุชื่อบุคคลทั้ง 9 คนที่ปรากฏอยู่ในภาพ โดยที่คนหนึ่งคือนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ซึ่งมองไม่ค่อยเห็นถนัด นอกจากนั้นยังมี แลร์รี คุดโลว์ ประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทรัมป์ และ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นอีกหลายคน
อย่างไรก็ดี ยังมีภาพถ่ายเหตุการณ์นี้อีกบางภาพซึ่งบ่งบอกให้เห็นการมีปฏิสัมพันธ์ที่ผ่อนคลายมากกว่า โดยที่ภาพหนึ่งแมร์เคิลกำลังยิ้ม และทรัมป์ก็กำลังมองสบตาเธอ
การประชุมซัมมิตจี 7 คราวนี้จัดขึ้นในวันศุกร์ (8) และวันเสาร์ (9) ที่เมืองชาร์ลเลอวัว ของรัฐควิเบก ประเทศแคนาดา
เหตุการณ์ตามภาพที่ถ่ายในวันเสาร์ (9) นี้ ไม่ได้เป็นช่วงเวลาอันกระอักกระอ่วนครั้งแรกระหว่างทรัมป์กับแมร์เคิล ผู้ซึ่งไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใดว่าเธอไม่เห็นด้วยกับแนวทางนโยบายของประมุขทำเนียบขาวผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางในเรื่องการค้า, การที่เขาปฏิเสธไม่เอาข้อตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และการที่เขาตัดสินใจนำสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงปารีสที่มุ่งต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของโลก
ตอนที่แมร์เคิลไปเยือนทำเนียบขาวในเดือนมีนาคม 2017 ทรัมป์ก็ทำท่าเหมือนกับไม่ได้ยิน หรือไม่แยแส เมื่อเธอยื่นมือจะขอเช็กแฮนด์ด้วยระหว่างอยู่ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว จากนั้นในการเยือนทำเนียบขาวอีกเที่ยวหนึ่งของผู้นำเยอรมันหญิงเหล็กผู้นี้เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ การต้อนรับที่ทรัมป์จัดให้ก็มีเพียงการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันเธอพร้อมกับพูดคุยทำงานไปด้วย โดยที่ไม่กี่วันก่อนหน้านั้น มาครงของฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้นำในสหภาพยุโรปเช่นเดียวกันเธอ ได้รับการต้อนรับแบบ “state visit” เต็มยศจากทรัมป์ โดยมีทั้งการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และการจัดเลี้ยงอาหารค่ำหรูหราอย่างเป็นทางการ
ซัมมิตจี 7 ที่ควิเบกคราวนี้ จัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดยที่ผู้นำของชาติอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทรัมป์ที่ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรจากอลูมิเนียมและเหล็กกล้านำเข้า มาตรการนี้ส่งผลกระทบอย่างแรงต่อพวกชาติคู่ค้าของสหรัฐฯในอียู ถึงแม้เป้าหมายหลักคือการมุ่งเล่นงานพวกผู้ผลิตชาวจีนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐและกำลังผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้จนล้นเกิน และทั้งยุโรปกับสหรัฐฯ ต่างประท้วงมานานแล้วว่าจีนส่งเหล็กกล้าราคาถูกออกมาท่วมตลาด
พวกผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม จี7 ครั้งนี้ พยายามที่จะประนีประนอมลดความไม่เห็นพ้องต้องกันของพวกเขา และออกแถลงการณ์ร่วมสุดท้ายของการประชุมซึ่งยอมรับว่ายังมีความเห็นแตกต่างกันในบางประเด็น แต่ปรากฏว่าขณะออกมาจากที่ประชุม ทรัมป์ได้ทวิตว่าเขาจะสั่งการพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ให้รับรองแถลงการณ์ของ จี7 ฉบับนี้ รวมทั้งทรัมป์ยังประณามนายกรัฐมนตรีแคนาดาผู้เป็นเจ้าภาพอย่างสาดเสียเทเสียอีกด้วย