เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง นั่งแถลงข่าวแจกแจงประเด็นค่าจัดงานซัมมิตสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ชี้ตัวเลขค่าใช้จ่ายจัดงานในฐานะเป็นเจ้าภาพอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (14.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่ยืนยัน เต็มใจจ่ายเพื่อความสงบสุขของภูมิภาค พบภาพคุ้นตาแผงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกาหลีเหนือชุดสูทดำวิ่งล้อมรถผู้นำเปียงยางที่โรงแรมเซนต์รีจิส ล่าสุดเวลา 18.30 น ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือเข้าพบกับลี ร่วมหารือระดับทวิภาคีแล้ว
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส รายงานวันนี้ (10 มิ.ย.) ว่า ในการแถลงข่าวของผู้นำสิงคโปร์ที่ถูกจัดขึ้นภายในศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติที่อาคาร F1 พิต (F1 Pit Building) วันอาทิตย์ (10) สำหรับความพร้อมในด้านความเป็นเจ้าภาพการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ โดยนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่างแจกแจงตัวเลขค่าจัดการประชุมในฐานะเจ้าภาพ
“เป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเรามีความยินดี” ลีกล่าวในวันนี้ (10) พร้อมกับเสริมว่า ครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นจะอยู่ในส่วนด้านรักษาความปลอดภัย
สื่อสิงคโปร์ชี้ว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับการประชุมซัมมิตระหว่างทรัมป์และคิมนี้จะอยู่ที่ราว 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 14.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และในการแถลง นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ยังกล่าวว่า การประชุมซัมมิตที่จะเกิดขึ้นในวันอังคาร (12) ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่เกิดขึ้น “ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง” จะเข้าร่วมการประชุมกับ “ผู้นำเกาหลีเหนือ” นั้นมีแนวโน้มที่จะสร้างพัฒนาการบนคาบสมุทรเกาหลีไปในเส้นทางใหม่
“ในความเห็นของเราคิดว่าเป็นความสำคัญที่การประชุมนี้ต้องถือกำเนิด และการหารือจะสร้างการพัฒนาไปในแนวทางใหม่ซึ่งจะมีคุณประโยชน์ต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค”
นอกจากนี้ ลียังชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนในการเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้โดยชี้ไปว่า เป็นปฏิบัติการที่ใหญ่ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากเกี่ยวข้อง มีกองทัพนักข่าวเข้าร่วม และระดบการรักษาควสามปลอดภัยในขอบเขตระดับสเกลของความซับซ้อนที่ต้องเกิดขึ้น
ด้านสำนักข่าวยอนฮับเกาหลีใต้รายงานวันนี้ (10) ว่า นักข่าวสถานทีโทรทํศน์ KBS News ของเกาหลีใต้ 2 คนที่ก่อนหน้านั้นที่ถูกตำรวจสิงคโปร์จับกุมจากการที่พยายามแอบเข้าไปยังที่พักเอกอัครรทูตเกาหลีเหนือประจำสิงคโปร์ ล่าสุดถูกตำรวจสิงคโปร์สั่งให้เดินทางออกนอกประเทศในทันทีแล้ว
ยอนฮับรายงานว่า มีนักข่าวเกาหลีใต้จำนวนกว่า 300 คนเดินทางเข้าสิงคโปร์เพื่อรายงานข่าวซัมมิตครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดยก่อนหน้าที่นายกรัฐมนตรีสิคโปร์จะเดินทางมาตรวจความพร้อมศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติ พบว่าเขาได้เดินทางไปตรวจตวามพร้อมหน่วยกองกำลังสิงคโปร์ที่ถูกส่งไปปฎิบัติหน้เที่เมืองพาลาวาน คิดซ์ ซิตี (Palawan Kidz City) และกองกำลังประจำศูนย์บัญชาการ
ผู้นำลียังย้ำถึงประเด็นความสำคัญของการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมซัมมิตในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะไม่ง่ายนักที่จะสามารถหาสถานที่ลงตัวที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน “ดังนั้นทางเราจึงไม่สามารถปฏิเสธได้” ลี เซียนลุง กล่าว ซึ่งหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สชี้ว่า สิงคโปร์เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีความสัมพันธ์ระหว่างทั้งเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสิงคโปร์กล่าวแถลงว่า บางทีทางสิงคโปร์สามารถได้รับกลับคินสำหรับค่าใช้จ่ายบางส่วนของการจัดการประชุม แต่เมื่อนักข่าวถามเจาะลึกลงในรายละเอียด ลีตอบปัดโดยกล่าวเพียงว่า หากว่าต้องดีดลูกคิด คำนวณราคาทุกอย่างในโลกใบนี้ บางทีอาจพลาดต่อสิ่งที่มีความสำคัญอย่างแท้จริงได้ และในกรณีนี้คือ การประชุมซัมมิตจะต้องเกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งนั่นเป็นความสำคัญ และทางสิงคโปร์กำลังเป็นเจ้าภาพ ที่อาจไม่หรูหราฟุ่มเฟือยเนื่องจากคำนึงถึงค่าใช้จ่าย แต่ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการจัดงานต้องมีพร้อม
ในขณะเดียวกัน ล่าสุดมีรายงานภาพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกาหลีเหนืออยู่ในชุดสูทสีดำล้อมรถผู้นำเกาหลีเหนือขณะกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ภายในโรงแรมเซนต์จีจิส
ในการเดินทางครั้งนี้พบว่า บรรดาที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดีเกาหลีเหนือเดินทางมาด้วย รวมไปถึง ผู้ส่งสารไปยังทำเนียบขาว คิม ยองโชล (Kim Yong Chol) รองประธานกรรมการพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ และล่าสุดประธานาธิบดีคิมเดินทางเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ในเวลา 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีการจับมือกระชับไมตรีและถ่ายภาพร่วม ก่อนที่จะหารือร่วมกันในระดับทวิภาคีต่อไป
พบประชาชนสิงคโปร์และสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการเดินทางมาเยือนสิงคโปร์ของผู้นำเกาหลีเหนือครั้งนี้ มีการยืนดูรถขบวนแล่นบนถนนและใช้กล้องถ่ายภาพไว้