เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ลีโอ วารัดคาร์ (Leo Varadkar) ประกาศที่จะทำให้ผลการลงประชามติสนับสนุนการยุติการตั้งครรภ์ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศออกมาเป็นกฎหมายให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ประชาชนชาวไอร์แลนด์ถึง 66.4% ออกเสียงสนับสนุนการปฎิรูปการยุติการตั้งครรภ์ และ 33.6% ออกเสียงคัดค้านสำหรับการลงประชามติที่ถูกจัดขึ้นในวันศุกร์ (25 พ.ค.)
เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ว่า 1 วันหลังจากการจัดลงประชามติยกเลิกกฎหมายห้ามการตั้งครรภ์ในไอร์แลนด์ที่มีขึ้นในวันศุกร์ (25) ด้วยเสียงผู้สนับสนุนล้นหลาม นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ลีโอ วารัดคาร์ (Leo Varadkar) หัวหน้าแคมเปญเสนอการปฏิรูปกฎหมายยุติการตั้งครรภ์ออกมาแสดงความยินดี
พร้อมกับกล่าวว่า ไอร์แลนด์รวมเป็นหนึ่งเดียวซึ่งประชาชนลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในการเห็นชอบในการปฎิรูปการยุติการตั้งครรภ์ จากการที่ผลอย่างเป็นทางการที่ออกมาชี้ว่า มีเกือบ 2 ใน 3 ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง
โดยพบว่าในจำนวนคะแนนเสียงทั้งหมด เสียงผู้สนับสนุนการยกเลิกกฎหมายการตั้งครรภ์ไอร์แลนด์สูงถึง 66.4% หรือ 1,429,981 เสียงต่อ เสียงคัดค้าน 33.6% หรือราว 723,632 เสียง
สื่อสแตนดาร์ดของอังกฤษชี้ว่า ในกรณีที่ผลการลงประชามติสนับสนุนการปฎิรูปการยุติการตั้งครรภ์ จะส่งผลทำให้กฎหมายรัฐธรรมนูญไอร์แลนด์ข้อแก้ไขที่ 8 the (Eighth Amendment of the Irish constitution) จะได้รับการแก้ไขอีกครั้ง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับสมาชิกรัฐสภาไอร์แลนด์สามารถนำเสนอร่างกฎหมายที่จะยกเลิกการห้ามการยุติการตั้งครรภ์ในที่สุด
นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์กล่าวในวันเสาร์ (26) ว่า “ผมเชื่อว่าวันนี้จะเป็นที่ถูกจดจำจากการที่เราทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองและในฐานะประเทศ” และกล่าวต่อว่า “วันนี้ ไอร์แลนด์ได้ก้าวออกจากความมืดมาสู่แสงสว่าง เป็นวันที่เรากำลังเติบโตขึ้นในฐานะประเทศ เป็นวันที่เราได้นำพาประเทศมาอยู่ท่ามกลางกับนานาชาติในโลกใบนี้”
เดอะการ์เดียนชี้ว่า การปฎิรูปกฎหมายการห้ามยุติตั้งครรภ์ จะส่งผลทำให้สตรีไอร์แลนด์สามารถทำการยุติการตั้งครรภ์ถูกกฎหมายได้ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์แรก ซึ่งชัยชนะการยกเลิกกฎหมายการตั้งครรภ์เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่สมเด็สพระสันตะปาปาฟรานซิสจะเสด็จเยือน คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่จะถึง ถือเป็นครั้งแรกที่พระประมุขแห่งโฮลีซีเสด็จเยือนนับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงเสด็จเยือนไอร์แลนด์ในปี 1979
หนึ่งในเขตเลือกตั้งการลงประชามติแรกๆที่ประกาศผลคือ เขตเลือกตั้งดับลินกลาง พบว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิที่เขตแห่งนี้ตอบสนับสนุนเกือบ 77% และแม้แต่เขตเลือกตั้งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สายอนุรักษ์ เช่น รอสคอมมอน/อีสต์ กาลเวย์ (Roscommon/East Galway) ที่ผลออกมาแรกๆให้เห็นชี้ว่า มีผู้เห็นด้วยถึง 57% และคัดค้าน 43% ในขณะที่เขตเลือกตั้งที่อยู่ห่างไกล เป็นต้นว่า คาร์โลว์/คิลเคนนี (Carlow/Kilkenny) ยังมีผลสนับสนุนเห็นชอบ 63.5% สื่ออังกฤษรายงาน
เดอะการ์เดียนกล่าวต่อว่า หลังผลการลงประชามติออกมา ทำให้เป็นที่แน่ชัดว่า มีเพียง “ไอร์แลนด์เหนือ” ที่อยู่ภายใต้อังกฤษเท่านั้นที่ยังคงกฎหมายห้ามการยุติการตั้งครรภ์ในเกือบทุกกรณี ซึ่งในช่วงเสาร์บ่าย (26) แอมเนสตีสากล และผู้นำพรรคลิเบอรัล เดโมแครต วินซ์ เคเบิล(Vince Cable)ออกมาเรียกร้อง ให้ไอร์แลนด์เหนือทำการยกเลิกการห้ามการตั้งครรภ์
โดยแอมเนสตีสากลกล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษไม่สามารถหรี่ตาได้อีกต่อไปต่อปัญหาที่สตรีชาวไอร์แลนด์เหนือต้องถูกบังคับให้เดินทางข้ามทะเลไอร์แลนด์เพื่อทำการยุติการตั้งครรภ์ของตัวเอง
