รอยเตอร์ - ผลเอ็กซิตโพลศึกเลือกตั้งอังกฤษในวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) พบพรรคคอนเซอร์เวทีฟของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ กวาดที่นั่งได้ไม่มากพอที่จะครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ผลลัพธ์ที่จะฉุดการเมืองภายในประเทศเข้าสู่ความยุ่งเหยิงและอาจส่งผลให้กระบวนการเจรจาถอนตัวจากอียู (เบร็กซิต) ประสบปัญหาล่าช้า
เอ็กซิตโพลคาดหมายว่า พรรคของเมย์จะไม่สามารถครองเสียงข้างมากของรัฐสภา 650 ที่นั่งได้เพียงลำพัง ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม หรือพยายามบริหารประเทศภายใต้การสนับสนุนจากพรรคขนาดเล็กอื่นๆ
จากเดิมที่คาดหมายว่าเมย์จะได้รับชัยชนะอย่างสบายๆ เอ็กซิตโพลคาดหมายว่า พรรคคอนเซอร์เวทีฟจะคว้าเก้าอี้ได้เพียง 314 ที่นั่ง และพรรคเลเบอร์ได้ 266 ที่นั่ง นั่นหมายความว่าไม่มีผู้ได้รับชัยชนะอย่างชัดเจนและกลายเป็นรัฐสภาที่ประกอบไปด้วยหลายพรรค
ปัญหาทางตันทางการเมืองในลอนดอนอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจากับสหภาพยุโรป ก่อนหน้าที่อังกฤษจะพ้นจากการเป็นสมาชิกของอียูในเดือนมีนาคม 2019
ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลอาจทำให้การเริ่มต้นเจรจาเบร็กซิต ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 19 มิถุนายน อาจถูกเลื่อนออกไป และทำให้ระยะเวลาของการเจรจาที่ได้รับคาดหมายว่าจะยุ่งยากซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เหลือน้อยลงไปด้วย
ผลเอ็กซิตโพลคาดหมายว่า พรรคสกอตติช เนชันแนล ปาร์ตี (เอสเอ็นพี) จะคว้าเก้าอี้ 34 ที่นั่ง, พรรคซ้ายกลางอย่าง ลิเบอรัล เดโมแครต ได้ 14 ที่นั่ง พรรคเพลด คัมรี พรรคชาตินิยมเวลส์ ได้ 3 ที่นั่งและพรรคกรีนส์ได้ไป 1 ที่นั่ง
ถ้าโพลเอ็กซิตโพลถูกต้อง พรรคเลเบอร์ที่นำโดยเจเรมี คอร์บีน อาจพยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับเหล่าพรรคขนาดเล็ก ซึ่งต่อต้านอย่างหนักหน่วงต่อนโยบายต่างๆ ของเมย์ในประด็นภายในประเทศ อย่างเช่นการตัดลดการใช้จ่ายของภาครัฐ
ความล้มเหลวของเมย์ในการนำพาพรรคครองเสียงข้างมาก อาจนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับสถานะผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเธอ และนั่นหมายความว่าอังกฤษอาจมีการเลือกตั้งอีกรอบในปีนี้
เมย์ ประกาศเลือกตั้งใหม่ในความหวังกระชับอำนาจเพื่อประโยชน์สำหรับต่อรองเบร็กซิตกับสมาชิกอื่นๆของอียู รวมถึงกระชับอำนาจของเธอเองภายในพรรคคอนเซอร์เวทีฟ หลังเธอก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังศึกประชามติถอนตัวจากอียูเมื่อปีที่แล้ว
แม้จะเคยมีคะแนนนิยมนำหน้ามากกว่า 20 จุดในช่วงเริ่มต้นของการหาเสียง แต่ระยะห่างของเมย์ค่อยๆลดลง ด้วยชาวอังกฤษไม่พอใจนโยบายหาเสียงต่างๆ นานาของเธอ โดยเฉพาะการบังคับให้คนชราจ่ายเงินค่าดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ด้วยฝ่ายต่อต้านถึงขั้นตั้งฉายาให้ว่า “ภาษีสมองเสื่อม”
ถ้าพรรคแรงงานก้าวเข้าสู่อำนาจภายใต้การสนับสนุนจากพรรคสกอตติช เนชันแนล และลิเบอรัล เดโมแครต 2 พรรคที่ต่อต้านเบร็กซิต อนาคตของอังกฤษก็จะเป็นเรื่องยากที่จะเดินตามเส้นทางที่พรรคคอนเซอร์เวทีฟวางเอาไว้และอาจเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีจัดทำประชามติถอนตัวจากอียูรอบสอง