เอเจนซีส์ - CNN รายงานด่วน ล่าสุดประกาศอย่างเป็นทางการ พรรครัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้สำเร็จ และนำไปสู่วิกฤตสภาแขวนที่ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก ในขณะที่อียูส่งสัญญาณโดยกุนเธอร์ เอตทิงเกอร์ สมาชิกคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์วันศุกร์ (9 มิ.ย.) ผ่านวิทยุเยอรมนี “อังกฤษจะเริ่มต้นเจรจา BREXIT ไม่ได้ หากยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่”
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานล่าสุดผลการเลือกตั้งอังกฤษ พบว่าหลังจากที่พรรคแรงงานของเจรามี คอร์บีน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในครั้งนี้ และได้กวาดใช้ในเซาแทมป์ตัน (Southampton) ทำให้กลายเป็นฝันร้ายของนายกรัฐมนตรีหญิง เทเรซา เมย์ ที่พบว่าผลออกมาอย่างเป็นทางการว่าพรรครัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟไปไม่ถึงคะแนน 326 เสียง สามารถขึ้นครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษจำนวน 650 ที่นั่งในสมัยหน้าที่จะถึงนี้ และทำให้เกิดวิกฤตภาวะสภาแขวนตามที่หลายฝ่ายเคยทำนายไว้ก่อนหน้า ท่ามกลางการเลือกตั้ง อ้างอิงจากเอพีระบุว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิถึง 69% สูงเป็นประวัติศาสตร์
โดยเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานผลการเลือกตั้งล่าสุดในเวลา 07.40 น.ของวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ที่นับเสร็จสิ้นไปแล้ว 646 จากทั้งหมด 650 พรรคคอนเซอร์เวทีฟได้ 315 พรรคแรงงานได้ 261 พรรค SNP ได้ 35 และพรรค LD ได้ 12 คะแนน
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ได้มีเสียงซุบซิบไปทั่วภายในพรรคคอนเซอร์เวทีฟ โดยกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เป็นตัวการทำให้พรรคคอนเซอร์เวทีฟสูญเสียที่นั่งจำนวนมากในครั้งนี้ โดยอ้างว่าในเขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ทีเมย์ไปหาเสียงนั้น ผลปรากฏว่าพรรคได้เสียที่นั่ง
จากการวิเคราะห์ของเดอะการ์เดียนที่ได้โปรเจกต์การเดินทางไปเยือนเขตเลือกตั้งของเมย์ช่วงหาเสียง โดยเชื่อว่าเธอเดินทางไปเยือน 70 เขตเลือกตั้งทั่วอังกฤษ และได้ใช้เวลากว่าครึ่งกับเขตเลือกตั้งฐานเสียงของพรรคแรงงานอังกฤษ ซึ่งพบว่าเธอได้ไปเยือน 47 เขต ส่วนใหญ่ได้น้อยกว่า 15 % ของการเลือกตั้งปี 2015
โดยผลการเลือกตั้งล่าสุดพบว่า ใน 43 เขตที่เธอไปเยือน มีเพียง 16 เขตเท่านั้นที่พรรคคอนเซอร์เวทีฟชนะ
ก่อนหน้านี้นักข่าวเอพีจากกรุงเบอร์ลินระบุว่า ผู้นำอียูต่างๆไม่ดูเหมือนว่า จะยอมเลื่อนกำหนดการเจรจา BREXIT ออกไป เพื่อปล่อยให้ลอนดอนสามารถใช้เวลาหาผู้ที่มานั่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จากปัญหาวิกฤตสภาแขวนที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเดลีเทเลกราฟรายงานว่า บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างเกรงว่า “วิกฤตรัฐสภาแขวน” ที่ถูกยืนยันอย่างเป็นทางการ อาจจะส่งผลต่อเงื่อนเวลาการเริ่มต้นเจรจาการลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของอังกฤษ
โดยหนึ่งในนั้นคือ กุนเธอร์ เอตทิงเกอร์ ( Gunther Oettinger)สมาชิกคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปใหสัมภาษณ์วันศุกร์ (9 มิ.ย.) ผ่านวิทยุเยอรมนี ให้สัมภาษณ์ยืนยันในเรื่องนี้ว่า “เราต้องการรัฐบาลที่จะสามารถเริ่มต้นปฏิบัติการได้ ซึ่งการมีคู่เจรจาที่อ่อนแอร้ายแรงมากยิ่งกว่า การเจรจาที่ได้เริ่มไปแล้ว และกลายเป็นผลร้ายต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมคาดว่าจะมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นมากกว่านี้”
โดยรอยเตอร์ชี้ว่า เอตทิงเกอร์เกรงว่า กำหนดการเริ่มต้นเจรจา BREXIT นั้นจะสามารถเริ่มได้ตามกำหนดในวันที่ 19 มิ.ย.หรือไม่
ในขณะที่ตัวแทนจากฝรั่งเศส ปิแอร์ มอสโกวิชี (Pierre Moscovici) ได้กล่าวให้ความเห็นในเรื่องนี้เช่นกัน โดยชี้ว่า ผลการเลือกตั้งอังกฤษน่าจะส่งผลต่อการเจรจา แต่ปฏิเสธที่จะกล่าวให้ความเห็นถึงกรณีที่ผู้บริหารอียูจะร้องขอให้อังกฤษยังคงอยู่ร่วมเป็นสมาชิกต่อไป
มอสโกวิชีได้ให้ความเห็นผ่านสถานีวิทยุยุโรป1 ว่า ผล BREXIT นั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษในชุดที่ผ่านมา หลังจากมีการลงประชามติเมื่อ 1 ปีก่อนหน้า และดังนั้นกำหนดเวลาในการออกภายในปี 2019 “ไม่ใช่ทางเลือก” แต่ต้องถูกแก้ไขในกฎหมายสนธิสัญญาเท่านั้น