เอเอฟพี - จีนระบุในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า พวกเขาไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการลดส่วนเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ แต่จะพยายามเพิ่มการนำเข้าหลังจากทั้งสองฝ่ายถอยห่างจากความเสี่ยงเกิดสงครามการค้า
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากปักกิ่งเสนอลดส่วนเกินดุลของจีนลงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ในระหว่างการเจรจาระดับสูงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยการเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของสหรัฐฯพอดี
รายงานดังกล่าวออกมาก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทวีตเมื่อวันจันทร์ (21) ว่าจีนจะซื้อ “สินค้าการเกษตรเพิ่มจากสหรัฐฯ เป็นปริมาณมหาศาล”
อย่างไรก็ตาม เกา เฝิง รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ปฏิเสธว่าไม่มีการกำหนดตัวเลขใดๆ ทั้งนั้นระหว่างการเจรจาในวอชิงตันซึ่งยุติด้วยการที่สองประเทศเห็นพ้องที่จะระงับการมาตรการเพิ่มภาษีตอบโต้กัน ถึงแม้ว่าจะแทบไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเลยก็ตาม
“จีนไม่ได้ให้คำสัญญาใดๆ เกี่ยวกับจำนวนของการลดส่วนเกินดุลกับสหรัฐฯ” เกา บอกในการบรรยายสรุปประจำวัน
“จีนจะกระตุ้นให้บริษัทต่างๆ เพิ่มการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์และบริการจากสหรัฐฯตามหลักการตลาด” และตามความจำเป็นทางเศรษฐกิจและการบริโภคของเราเอง เกา กล่าว
“สองฝ่ายมีความต้องการที่จะกระชับความร่วมมือในด้านสินค้าการเกษตร พลังงาน บริการทางการแพทย์ อุตสาหกรรมไฮเทค และการเงิน”
ทั้งสางฝ่ายหยิบยื่นไมตรีให้แก่กันมากขึ้นนับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ โดยเมื่อวันอังคาร (22) จีนประกาศว่า พวกเขาจะลดภาษีนำเข้ายานยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป
ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลของเขาอาจบังคับให้ค่าปรับใหม่จำนวน 1.3 พันล้านดอลลาร์กับ ZTE บริษัทโทรคมนาคมของจีนแทนที่มาตรการคว่ำบาตรรุนแรงที่บังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้วซึ่งเสี่ยงทำให้บริษัทนี้ต้องล้มเลิกกิจการ
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงเมื่อวันอาทิตย์ (20) หลังจากทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่ค่อยพอใจกับมัน