มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปรับลดในวันศุกร์ (18 พ.ค.) ท่ามกลางสัญญาณกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีททรงตัว กังวลความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างอเมริกาและจีน ขณะที่ทองคำปิดบวกเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 71.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 78.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ข้อมูลของ เบเกอร์ ฮิวจ์ส ผู้ให้บริการทางพลังงานรายใหญ๋ ที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (18 พ.ค.) จะพบว่ามีแท่นขุดน้ำมันดิบในสหรัฐฯเดินเครื่องเท่าเดิมในสัปดาห์นี้ คือ 844 แท่น ทว่า ก่อนหน้านี้ มันเพิ่มขึ้นมา 6 สัปดาห์ติด บ่งชี้ถึงกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นของอเมริกา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์ (18 พ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุน กังวลความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างอเมริกาและจีน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.11 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,715.09 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.16 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,712.97 จุด แนสแดค ลดลง 28.13 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,354.34 จุด
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนในวอชิงตันอยู่ในความสนใจของนักลงทุนมาตลอดทั้งสัปดาห์
ในขณะที่สถานะของการเจรจายังไม่ชัดเจน เมื่อวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) สื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าวว่า ปักกิ่ง เสนอลดเกินดุลการค้าวอชิงตันลง 200,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ (18 พ.ค.) เจ้าหน้าที่จีนได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) ความเห็นของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า จีนเริ่มนิสัยเสียในด้านการค้า กระพือข้อสงสัยเกี่ยวกับความตั้งใจของเขา ในความพยายามหลีกเลี่ยงสงครามจัดเก็บภาษีระหว่าง 2 ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งคำพูดดังกล่าวสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนพอสมควร
ขณะเดียวกัน เหล่าสมาชิกทั้ง 2 สภาในคองเกรสเตรียมผลักดันร่างกฎหมายฉบับหนึ่งที่มอบอำนาจมากขึ้นแก่สหรัฐฯในการขัดขวางการทำสัญญาต่างๆ ระหว่างบริษัทอเมริกากับบริษัทจีนที่อาจเสี่ยงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (18 พ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,291.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์