รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพหัสบดี (17 พ.ค.) ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ หลังความเห็นของทรัมป์กระพือความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้า ขณะที่ทองคำปรับลดเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน คงที่ ปิดที่ 71.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2 เซ็นต์ ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อุปทานน้ำมันที่ลดลงฮวบฮาบของเวเนซุเอลา, ความกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและคลังเชื้อเพลิงสำรองที่ลดลงทั่วโลก ล้วนเป็นปัจจัยที่ดัน
ราคาน้ำมันขยับขึ้นมาเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 และเป็นอีกครั้งที่ปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.)
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดลบในกรอบแคบๆ นักลงทุนกลับมากังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีน
ดาวโจนส์ ลดลง 54.95 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,713.98 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.33 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,720.13 จุด แนสแดค ลดลง 15.82 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,382.47 จุด
ความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าจีนเริ่มนิสัยเสียในด้านการค้า กระพือข้อสงสัยเกี่ยวกับความตั้งใจของเขา ในความพยายามหลีกเลี่ยงสงครามจัดเก็บภาษีระหว่าง 2 ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งคำพูดดังกล่าวสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนพอสมควร
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) ขยับลง แตะระดับต่ำสุดในรอบปี 2018 หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์