มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันพุธ (18 เม.ย.) หลังพบสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯ ลดลงผิดคาด ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (18 เม.ย.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 เมษายน ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของพวกนักวิเคราะห์ของ เอสแอนด์พี โกลบอล แพลตต์ส คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 625,000 บาร์เรล
ปัจจัยทางราคาน้ำมันหนุนหุ้นกลุ่มปิโตรเลียม ประกอบกับรายงานผลประกอบการที่สดใส ช่วยให้วอลล์สตรีทปิดบวกในวันพุธ (18 เม.ย.) แต่ ดาวโจนส์ ขยับลงตามแรงฉุดของหุ้นไอบีเอ็ม
ดาวโจนส์ ลดลง 38.56 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,748.07 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.25 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,708.64 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 14.14 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,295.24 จุด
ดาวโจนส์ ปิดลบ ตามแรงฉุดของไอบีเอ็มที่ร่วงลงถึง 7.6 เปอร์เซ็นต์ หลังประมาณการผลกำไรในปี 2018 อ่อนแอกว่าคาดหมาย
อย่างไรก็ตาม เอสแอนด์พี 500 และแนสแดค เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับเมื่อวันจันทร์ (16 เม.ย.) และวันอังคาร (17 เม.ย.) จากแรงหนุนกล่มพลังงาน ท่ามกลางความหมายว่ารายงานผลประกอบการของบริษัทอื่นๆ จะออกมาสดใส ซึ่งปัจจัยนี้เองที่ช่วยให้นักลงทุนมองข้ามสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (18 เม.ย.) ปิดบวกพอสมควร แตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ นิ่งขึ้นและดอลลาร์ทรงตัว โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,353.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์