มาเลเซียสั่งขึ้นบัญชีดำ “นาจิบ-ภริยา” ห้ามออกนอกประเทศ หลังโซเชียลลือหึ่งเตรียมบินหนีไป “จาการ์ตา”

เอเอฟพี - สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียยืนยันอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค และภริยา รอสมะห์ มันซูร์ ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศแล้วในวันนี้ (12 พ.ค.) หลังเจ้าตัวออกมาประกาศขอ “พักเบรก” ชั่วคราว ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าอดีตนายกฯ ผู้สิ้นอำนาจอาจหนีออกนอกประเทศเพื่อเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฐานทุจริต

“สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่งมีคำสั่งขึ้นบัญชีดำ นาจิบ และ รอสมะห์ เป็นบุคคลที่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ" มุสตาฟา อาลี ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันกับเอเอฟพี

ทางด้านของ นาจิบ ก็ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า “ผมเพิ่งได้รับแจ้งจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียว่าตัวผมและครอบครัวไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ ผมยินดีปฏิบัติตามคำสั่งนี้ และจะอยู่ในประเทศกับครอบครัว”

กลุ่ม บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ซึ่งผูกขาดการเป็นรัฐบาลมานานกว่า 60 ปีตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1957 ได้รู้จักคำว่า “แพ้” เป็นครั้งแรก หลังจากอดีตนายกฯ ผู้ทรงอิทธิพล มหาเธร์ โมฮาหมัด ตัดสินใจหวนคืนสู่สังเวียนการเมืองเพื่อช่วยฝ่ายค้านโค่นล้ม นาจิบ นักการเมืองรุ่นน้องที่ตนเคยอุปถัมภ์ค้ำชูมาก่อน

ทันทีที่บีเอ็นแพ้เลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. นักวิเคราะห์หลายคนก็เริ่มตั้งข้อสังเกตว่า นาจิบ และภรรยาอาจหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะ มหาเธร์ ได้ให้คำมั่นกับประชาชนแล้วว่าจะไล่เบี้ยสอบสวนคดีทุจริตทางการเงินที่ นาจิบ มีชื่อพัวพันอยู่ด้วย

นาจิบ ได้ทวีตข้อความเมื่อเช้าตรู่วันนี้ (12) ว่า “ผมขอพักเบรกชั่วคราวเพื่อใช้เวลากับครอบครัวที่ผมไม่ได้เจอหน้ากันสักเท่าไหร่ตลอดหลายปีมานี้”

“ผมขอภาวนาให้บ้านเมืองกลับมาสามัคคีกันอีกครั้ง หลังช่วงเวลาแห่งความแตกแยกนี้ผ่านไป”

“ผมต้องขออภัยหากเคยบกพร่องหรือทำอะไรผิดพลาดไป และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่เคยให้โอกาสผมได้เป็นผู้นำของชาติที่ยิ่งใหญ่ของเรา”

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้

เช้าวันนี้ (12) ที่สนามบินในเมืองสุบัง (Subang) ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีประชาชนราว 40 คนและกองทัพนักข่าวไปปักหลักรอตั้งแต่เช้าตรู่ โดยตำรวจปราบจลาจลได้ตั้งแถวปิดกั้นบริเวณทางเข้าที่คาดว่ารถยนต์ของ นาจิบ จะต้องผ่านเพื่อไปขึ้นเครื่องบินมุ่งสู่กรุงจาการ์ตา

สถานการณ์เริ่มชุลมุนเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมตรงเข้าปิดล้อมรถตู้สีขาวคันหนึ่งซึ่งติดฟิล์มหนาทึบ และสั่งให้คนในรถเปิดประตูเพื่อดูว่าใครอยู่ข้างใน บางคนถึงกับเขย่ารถ และตะโกนว่า “เกลียดรอสมะห์" ซึ่งหมายถึงภริยาของ นาจิบ ที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำตัวหยิ่งยโสและฟุ้งเฟ้อ

อย่างไรก็ตาม เมื่อคนในรถเปิดหน้าต่างให้ดูชัดๆ ว่าไม่มี นาจิบ อยู่ข้างใน ฝูงชนก็ล่าถอยออกมา และปล่อยให้รถเคลื่อนเข้าสู่สนามบินได้

ราชา สิงคัม นักธุรกิจวัย 49 ปี ซึ่งพยายามขวางรถตู้คันดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเรามีสิทธิ์จะรู้ว่าใครอยู่ในรถ ในฐานะพลเมืองเราจะต้องสู้ เราทุกข์ทรมานกันมาหลายปีแล้ว ผมไม่อยากให้พวกเขาหนีออกนอกประเทศ”

นาจิบ ถูกครหาว่ามีส่วนพัวพันกับการยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกไปจากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งเมื่อปี 2009 และพบว่ามีเงินราวๆ 700 ล้านดอลลาร์ถูกถ่ายโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของอดีตนายกฯ ผู้นี้