เฟดคงอัตราดอกเบี้ย ส่งสัญญาณไม่กังวลตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูง

เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในวันพุธ(2พ.ค.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมที่ ที่ระดับ 1.50-1.75% และในขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณว่าพวกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินไม่ได้รู้สึกกังวลมากมายอะไรต่อตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆนี้

เฟดเน้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังสูงขึ้น แต่จะอยู่ในรูปแบบ ymmetry บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจปรับตัวขึ้นๆลงๆ สูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับเป้าหมายร้อยละ 2 เล็กน้อยเป็นครั้งคราว

หลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC) ยังได้ย้ำถึงการประมาณการของพวกเขาที่เคยคาดหมายต่อเส้นทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากปรับขึ้นหนล่าสุดไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล Personal Consumption Expenditures (PCE) ของเฟด แตะระดับเป้าหมาย 2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนมีนาคม ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี ส่วน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน อยู่ที่ 1.9 เปอร์เซ็นต์

อัตราเงินเฟ้อแกว่งตัวอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวต่างๆนานา แต่ในถ้อยแถลงของ FOMC ระบุว่าตัววัดอัตราเงินเฟ้อหลักและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยับเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตั้งแต่การประชุมคราวก่อน

การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อก่อแรงสั่นสะเทือนแก่ตลาดทุน ซึ่งเกรงว่าเฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่คาดหมายว่าไว้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ยังเชื่อว่าว่าอัตราเงินเฟ้อในรอบ 12 เดือน จะขยับเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2 เปอร์เซ็นต์ในระยะกลาง ตามที่ FOMC ประมาณการเอาไว้

ขณะเดียวกันตลาดพยายามจับตาสัญญาณต่างๆจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนใหม่ว่าจะมีท่าทีแข็งกร้าวกว่าหรือไม่ในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนก่อน แต่ถ้อยแถลงล่าสุดนี้ดูเหมือนจะไม่อาจยุติการโต้เถียงได้

ถ้อยแถลงย้ำถึงเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในจุดยืนของนโยบายการเงิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตราปานกลางในระยะยาวและภาวะของตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ส่วนการลงทุนทางธุรกิจมีการขยายตัวอย่างมาก และความเสี่ยงยังคงมีความสมดุล

ทั้งนี้ FOMC มีกำหนดประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน โดยมีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์