ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ที่ปิดร่วงลงเมื่อคืน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เปิดวันนี้ที่ 3,074.52 จุด ลดลง 6.66 จุด, -0.22% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดวันนี้ที่ 30,405.48 จุด ลดลง 318.40 จุด, -1.04% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เปิดวันนี้ที่ 10,578.98 จุด ลดลง 39.83 จุด, -0.38% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เปิดวันนี้ที่ 2,506.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด, +0.05% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เปิดวันนี้ที่ 3,585.30 จุด ลดลง 29.98 จุด, -0.83% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เปิดวันนี้ที่ 1,848.63 จุด ลดลง 3.40 จุด, -0.18% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เปิดวันนี้ที่ 7,792.41 จุด เพิ่มขึ้น 56.34 จุด, +0.73% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันระลึกรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) แต่ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และการปรับตัวของเศรษฐกิจได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาการออกคำสั่งให้ใช้มาตรการควบคุมบริษัทของจีนในการจำหน่ายอุปกรณ์ด้านการสื่อสารในสหรัฐ
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐฯ ขายสินค้าต่างๆ ให้กับบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน เป็นเวลา 7 ปี เพื่อตอบโต้ ZTE ที่ส่งมอบสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้เข้าตรวจสอบบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เพื่อหาหลักฐานว่า หัวเว่ย ได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่ห้ามไม่ให้มีการขายสินค้าให้กับอิหร่านหรือไม่