xs
xsm
sm
md
lg

In Clips : ฮือฮา! แปรพักตร์เกาหลีเหนือแฉ “ผู้นำเปียงยาง” พก “ส้วมเคลื่อนที่” ติดตัวตลอด - ผู้นำคิมยอมซัมมิตกับทรัมป์ที่เส้นแบ่งพรมแดน DMZ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับ CNN ว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้หว่านล้อมผู้นำเกาหลีเหนือ ให้ตกลงร่วมประชุมซัมมิตสุดยอมผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือบริเวณเส้นแบ่งพรมแดน DMZ ของเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์วันจันทร์ (30 เม.ย.) ประกาศอยากเห็นการประชุมเกิดขึ้นบริเวณเส้น DMZ คนใกล้ชิดชี้ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการให้มีการถ่ายทอดสดทั่วโลกตลอดงาน ด้านเกาหลีเหนือแปรพักตร์เปิดเผย ผู้นำเปียงยางนำสุขาเคลื่อนที่ติดตัวตลอดเวลา กลัวถูกล้วงความลับ

CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (1 พ.ค.) ว่าการประชุมสุดยอดผู้นำ 2 ชาติเกาหลีวันศุกร์ (27 เม.ย.) เกิดขึ้นบริเวณใกล้กับเส้นแบ่งเขตแดนเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ หมู่บ้านปันมุนจอม (Panmunjom) ซึ่งเป็นที่ประจักษ์พยานไปทั่วโลก นำไปสู่แนวคิดการยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ถึงแม้จะยังไม่มีเงื่อนเวลาระบุก็ตาม แต่ความคืบหน้าที่เห็นได้ชัดคือ การประกาศสั่งปิดศูนย์ทดสอบนิวเคลียร์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ รวมไปถึงการสิ้นสุดสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางเปียงยางยอมที่จะกลับมาใช้ระบบเวลาร่วมกับเกาหลีใต้อีกครั้ง

ในขณะที่ในวันจันทร์ (30 เม.ย.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเปิดเผยกับบรรดานักข่าวว่า เขามีตวามรู้สึกตื่นเต้นที่จะเห็นการจัดการประชุมซัมมิตระหว่างตัวเขาและผู้นำเกาหลีเหนือที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งมีอาณาบริเวณราว 2 ไมล์ครึ่ง อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ใกล้บริเวณเส้นแบ่งเขตแดน DMZ ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี

“มีบางสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับมัน เป็นเพราะคุณอยู่ที่นั่น และหากว่ามันประสบความสำเร็จ จะต้องมีการฉลองครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่บริเวณนั้น ไม่ใช่จากที่ประเทศที่ 3” ทรัมป์กล่าว

และเขาเสริมต่อในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีไนจีเรีย มูฮัมมาดู บูฮารี ที่อยู่ในระหว่างการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในเวลานี้ว่า

“สหรัฐอเมริกา ไม่เคยมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์ ที่จะมีศักยภาพในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ด้วยความรู้สึกนับถือต่อคาบสมุทรเกาหลี ที่จะสามารถขจัดอาวุธนิวเคลียร์ออกไปได้ ที่จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีมากมาย สิ่งที่เป็นแง่บวก รวมไปถึงสันติภาพและความปลอดภัยให้แก่โลกใบนี้” รายงานจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส

นอกจากนี้ยังพบว่าในแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์ของผู้นำสหรัฐฯที่ออกมาในภายหลัง เขายังกล่าวให้ความเห็นในแง่บวกของการจัดซัมมิตที่เส้น DMZ ว่า “มีหลายประเทศจำนวนมากที่อยู่ในตัวเลือกสำหรับสถานที่ จัดการประชุม” และกล่าวต่อว่า “แต่ทว่าบ้านแห่งความสงบสุข/บ้านแห่งสันติภาพ บริเวณเส้นพรมแดนเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้มีความเป็นสัญลักษณ์มากกว่า ถือเป็นสถานที่สำคัญและยาวนานมากกว่าประเทศที่ 3 ไม่ใช่หรือ? แค่ถามดู!”

CNN ชี้ว่า ทั้งนี้พบว่าในระหว่างการจัดงานซัมมิต 2 ชาติเกาหลีในวันศุกร์ (27 เม.ย.) พบว่ามีคนทั่วโลกหลายล้านคนเฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดทางทีวี ที่มีกล้องทีวีติดตามถ่ายผู้นำทั้งสองเกือบตลอดเวลาทั้งวัน นับตั้งแต่การเดินทางออกจากทำเนียบสีน้ำเงินของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน มาจนถึงช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ข้ามที่กั้นแบ่งเขตแดนเข้ามาสู่ดินแดนเกาหลีใต้ และช่วงเวลาที่ผู้นำคิมคะยั้นคะยอให้ผู้นำมุนก้าวข้ามเข้าไปยังฝั่งเกาหลีเหนือเช่นกัน

สื่อ CNN ชี้ว่า ทรัมป์ต้องการเห็นตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน ที่จะทำให้เขากลายเป็นผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่ยังอยู่ในตำแหน่งพบกับผู้นำเกาหลีเหนือ และตัวทรัมป์มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการที่จะจับมือกับผู้นำเกาหลีเหนือเหนือเส้นแบ่งพรมแดน DMZ และต้องการให้มีการบันทึกภาพผ่านทางกล้องทีวีวินาทีที่ตัวเองตัดสินใจลุกขึ้นออกไปจากโต๊ะเจรจาทันทีหากว่าการเจรจาไม่เป็นผลไปตามที่ตั้งใจ แหล่งข่าวชี้

โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯต้องการให้มีการถ่ายทอดสดตลอดเวลาในการหารือร่วมกับประธานาธิบดีคิม จองอึน ซึ่งในการให้ข้อมูล เชื่อว่า ผู้นำเกาหลีใต้อาจร่วมอยู่ในกระบวนการซัมมิตในระดับหนึ่ง CNN รายงานว่า ในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์และมุน แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้เปรยถึงการจัดซัมมิตที่เส้นแบ่งเขตแดน DMZ กับประธานาธิบดีมุน

CNN รายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือยอมรับปากที่จะพบกับทรัมป์ที่เส้นแบ่งเขตแดน DMZ โดยพบว่าตัวผู้นำเกาหลีใต้เป็นผู้หว่านล้อมคิมให้ร่วมประชุมกับทรัมป์ที่เส้น DMZ นี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จริง อาจถือว่าเป็นสถานที่จะทำให้ทางเกาหลีเหนือได้เปรียบโดยเฉพาะในด้านลอจิสติกส์ให้สำหรับตัวคิม จองอึน แหล่งข่าวกล่าว เป็นเพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับสื่อมวลชนพร้อมแล้วในสถานที่แห่งนั้น ซึ่งจะทำให้การจัดการประชุมซัมมิตสามารถเกิดขึ้นได้ทันที

และอีกทั้งการเดินทางไปยังทางด้านเหนือของเส้น DMZ อาจจะทำให้ทรัมป์สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้น ที่อาจจะมีการประชุมซัมมิตเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้

แนวคิดการจัดการประชุมซัมมิตสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือบริเวณใกล้เส้น DMZ นั้นไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับบรรดาผู้ช่วยของทรัมป์ เหตุเพราะผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวย้ำไปย้ำมาถึงเรื่องนี้ตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ล่าสุด สื่อสหรัฐฯ รายงาน

ทั้งนี้การจัดการประชุมบริเวณใกล้เขตเส้น DMZ อาจถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากสำหรับประธานาธิบดีเกาหลีเหนือเท่าใดนักสำหรับการเดินทาง เพราะในรายงานล่าสุดของสื่อสหรัฐฯ ฟ็อกซ์นิวส์ ชี้ว่า มีเกาหลีเหนือแปรพักตร์ที่เคยทำงานในหน่วยกองบัญชาการรักษาความปลอดภัยเก่าหลีเหนือ (the North Korean Guard Command) ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า ผู้นำเปียงยางนำ “ส้วมเคลื่อนที่” ติดตัวไปทุกหนทุกแห่ง ซึ่งเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องมาจากผู้นำคิมเกรงว่า สายลับข่าวกรองโลกตะวันตกอาจจะแอบนำตัวอย่างอุจาระของประธานาธิบดีคิมเพื่อไปตรวจสอบสำหรับการประเมินด้านสุขภาพของตัวเขา

ในขณะที่แหล่งข่าวอีกรายที่มีความใกล้ชิดกับกระบวนการเหล่านี้ได้เคยเปิดเผยต่อ สื่อเดลีเอ็นเค นิวส์ เอาต์เลต ว่าไม่ว่าคณะของคิม จองอึน จะเดินทางด้วยวิธีใด ทางรถไฟ ทางขบวนรถลิมูซีนสีดำสนิท หรือแบบรถลุยสมบุกสมบัน สิ่งหนึ่งที่ต้องถูกติดตั้งในยานพาหนะเหล่านี้คือ “สุขาเคลื่อนที่” เพื่อให้ผู้นำได้ใช้งานอย่างทันท่วงที แหล่งข่าวกล่าว


“ในขบวนรถคอนวอยของเขา มีรถร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก แต่ผู้คนไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขาจะอยู่ในรถคันไหน และยังมีรถอีกหนึ่งตันที่ถูกจัดไว้สำหรับเป็นห้องน้ำเคลื่อนที่เพื่อสำหรับผู้นำโดยเฉพาะ”


ด้านอดีตตำรวจลับสหรัฐฯ แดน บอนกิโน (Dan Bongino) ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า หากว่าเรื่องสุขาเคลื่อนที่นี้เป็นความจริง เท่ากับเป็นสิ่งยืนยันถึงความหวาดวิตกของรัฐบาลเปียงยางได้เป็นอย่างดี”

สื่อเอเชียนิวส์เน็ตเวิร์กรายงานว่า ความกลัวในการแอบนำตัวอย่างอุจจาระและของเหลวไปเพื่อทำการวิเคราะห์นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีตสหภาพโซเวียตได้เป็นอย่างดี ที่ในเวลานั้นประเทศหลังม่านเหล็กเชื่อว่า ตัวอย่างอุจจาระสามารถบอกลักษนะนิสัยของบุคคลคนนั้นได้

โดยในสมัยที่อดีตผู้นำเผด็จการโซเวียต โจเซฟ สตาลิน ยังอยู่ในอำนาจ เขาได้เคยเชิญให้ประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตง เดินทางมาเยือน ซึ่งดูเหมือนว่าสตาลินต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกัยตัวผู้นำจีนรายนี้ ที่นอกเหนือจากเป็นพันธมิตรแล้ว ยังถือว่าเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์อีกด้วย โดยการสั่งให้มีการจัดเลี้ยงอาหารอย่างดีนานาชนิดแก้ผู้นำเหมาในระหว่างที่อยู่ในสหภาพโซเวียต

การที่ประธานาธิบดีเหมาได้รับการต้อนรับอย่างดี ย่อมหมายความว่าเขาต้องการใช้ห้องสุขาเป็นจำนวนที่มากครั้งไปด้วย เอเชียนิวส์เนตเวิร์กรายงานว่า และเป็นโอกาสที่จะทำให้สายลับสหภาพโซเวียตสามารถเก็บตัวอย่างจากผู้นำจีนเพื่อการวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากนี้ยังพบว่า ในช่วงสมัยยุคสงครามเย็น ทั้ง CIA ของสหรัฐฯ และ MI6 ของอังกฤษ ต่างพยายามที่จะเก็บตัวอย่างอุจจาระของอดีตผู้นำสหภาพโซเวียต ประธานาธิบดีมิคาอิล กอร์บาชอฟ เจ้าของนโยบายเปเรสตรอยคา ก่อนหน้ากำหนดการเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.










กำลังโหลดความคิดเห็น