ทรัมป์เผยจะประชุมซัมมิตร่วมกับ “คิม จองอึน” เดือน พ.ค. หรือไม่ก็ต้น มิ.ย.

รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยในวันจันทร์ (9 เม.ย.) ว่าเขามีแผนพบปะพูดคุยกับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือในเดือนหน้า หรือไม่ก็ต้นเดือนมิถุนายน และหวังว่าท้ายที่สุดการหารือจะนำมาซึ่งการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยาง

ระหว่างให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ แสดงความหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ ซึ่งมึนตึงมานานหลายศตวรรษจากสงคราม ความเกลียดชังและการแข่งขันทางอาวุธ จะสามารถหยั่งรากแห่งมิตรภาพมากกว่าเดิม

“เราจะประชุมกับพวกเขาในช่วงใดช่วงหนึ่งของเดือนพฤษภาคม หรือไม่ก็ต้นเดือนมิถุนายน และผมคิดทั้งสองฝ่ายจะให้ความเคารพกันและกันอย่างสูง และหวังว่าเราจะสามารถก่อข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ” ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนเริ่มต้นประชุมคณะรัฐมนตรี

“พวกเขาพูดแบบนั้น เราเองก็พูดแบบนั้นเช่นกัน หวังว่า มันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างจากที่มันเคยเป็นมาในช่วงปลายปีก่อน แบบหน้ามือเป็นหลังมือ” ทรัมป์กล่าว

การเปิดเผยของทรัมป์มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (8 เม.ย.) ว่าเกาหลีเหนือได้แจ้งกับอเมริกาว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับหารือเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี เมื่อครั้งที่คิมจะประชุมซัมมิตร่วมกับทรัมป์

เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือได้พูดคุยกันอย่างลับๆเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งทางเปียงยางได้ยืนยันถึงความตั้งใจจัดการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์

ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายกำลังติดต่อสื่อสารระหว่างกันหลายทาง แต่ยังอยู่ในขั้นต้นๆ ในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหัฐฯกำลังพูดคุยกับเกาหลีเหนือผ่านคณะผู้แทนเปียงยางประจำสหประชาชาติ ขณะที่อีกด้านหน่วยข่าวกรองของทั้งสองฝ่ายก็ได้ใช้ช่องทางฉากหลังติดต่อกัน

หลังจากประกาศข่าวอันน่าตกตะลึงเมื่อเดือนมีนาคม ว่าเขาตอบรับคำเชิญประชุมซัมมิตร่วมกับผู้นำเกาหลีเหนือ ตั้งแต่นั้นเริ่มมีข้อสงสัยกระพือขึ้นว่าการเจรจานั้นจะมีการเดินหน้าจริงหรือไม่

นานหลายทศวรรษแล้วที่เกาหลีเหนือแบะท่าเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะยอมระงับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่มีเงื่อนไขว่าสหรัฐฯ จะต้องถอนกำลังทหารจากเกาหลีใต้ ซึ่งมันเป็นข้อแม้ที่เป็นไปไม่ได้ไม่ว่ากับประธานาธิบดีสหรัฐฯหรือผู้นำโซลคนไหนๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วย คิม จองอึน เดินทางเยือนจีนเมื่อเร็วๆ นี้และมีการติดต่อในฉากหลังระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีหนือหลายต่อหลายครั้ง ได้เพิ่มความหวังว่าบางทีข้อตกปลดอาวุธนิวเคลียร์เปียงยางอาจมีทางเป็นไปได้