เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – รัฐบาลโซมาเลียแถลง สามารถยึดกระเป๋า 3 ใบใส่เงินสด 9.6 ล้านดอลลาร์ที่จากเครื่องบินของบริษัทสายการบินรอแยลเจ็ต(Royal Jet)ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในท่าอากาศยานนานาชาติโมกาดิชู พบต้นทางบินลำจากกรุงอาบูดาบี กลายเป็นประเด็นร้อนล่าสุดของความร้าวฉานระหว่าง 2 ชาติหลังยูเออีช่วยฝึกซ้อมรบ-ยอมรับพาสปอร์ตจากโซมาลีแลนด์ที่ขอแยกตัวจากโมกาดิชู
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้(9 เม.ย)ว่า กระทรวงมหาดไทยโซมาเลียแถลงว่า หลังจากมีการเผชิญหน้าเกิดขึ้นนานหลายชั่วโมงระหว่างเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานโมกาดิชูและเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำกรุงโมกาดิชู โซมาเลียพบเงินสดซ่อนไว้ในกระเป๋า 3 ใบที่ไม่ได้ติดเครื่องหมายบนเครื่องบินบริษัทสายการบินรอแยลเจ็ต(Royal Jet)ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้พบว่าสายการบินรอแยลเจ็ตนั้นมีฐานอยู่ในกรุงอาบูดาบี ซึ่งมีฐานลูกค้าระดับบนที่เดินทางระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และยุโรป สื่อกาตาร์ชี้
ในแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยโซมาเลียที่ออกมาช่วงค่ำวันอาทิตย์(8)กล่าวว่า
“เงินสดที่ถูกยึดมาได้มีมูลค่า 9.6 ล้านดอลลาร์ และในเวลานี้ทางสำนักงานความมั่นคงต่างๆอยู่ในระหว่างการสอบสวนถึงแหล่งที่มาของเงิน จุดหมายปลายทางของเงิน และบุคคลที่นำเงินสดจำนวนนี้แอบเข้าประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ในรายงานของสื่อโซมาลีแลนด์ โซมาลีแลนด์เพรสเมื่อวันอาทิตย์(8) ชี้ว่า อ้างอิงจากเลขาธิการใหญ่สมาพันธ์นักข่าวโซมาเลีย โมฮาเหม็ด เมาลิมู(Mohamed Moalimouu) ให้ข้อมูลว่าเครื่องบินลำนี้ถูกทางการโมกาดิชูบุกค้น โดยฮารุน มารุฟ (Harun Maruf) นักข่าววอยซ์ออฟอเมริกาชี้ว่า ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ข้อมูลว่า “เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เพื่อสถานทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่เพื่อกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนทหารโซมาเลีย”
ซึ่งในรายงานของวอยซ์ออฟอเมริกากล่าวว่า คณะของเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำโซมาเลียพยายามนำกระเป๋า 3 ใบผ่านออกมาจากทางท่าอากาศยานโดยที่ไม่ต้องการให้ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่สนามบินสั่งให้นำเข้าเครื่องตรวจ ส่งผลทำให้ทางเอกอัครราชทูต โมฮัมเหม็ด อาห์เหม็ด ออธมาน อัล ฮัมมาดี(Mohammed Ahmed Othman Al Hammadi) ปฎิเสธ และนำกระเป๋าทั้ง 3 ขึ้นไปบนเครื่องบินของสายการบินรอแยลเจ็ต สายการบินประจำราชอาณาจักรยูเออีทันที
ทางเอกอัครราชทูตยูเออียังยืนยันกับสื่อสหรัฐฯว่า ทางโมกาดิชูทราบล่วงหน้ามาก่อนถึงเงินจำนวนนี้ที่ต้องจ่ายให้ทางกองกำลัง
ซึ่งนอกเหนือจากที่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะทำการฝึกซ้อมให้ทหารโซมาเลียในกรุงโมกาดิชู ทางยูเออียังฝึกให้กับกองกำลังตำรวจน้ำจำนวน 1,000 นายของรัฐพุนต์แลนด์ (Puntland) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของโซมาเลีย มีสถานภาพเป็นรัฐปกครองตนเองของโซมาเลีย
แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่โซมาเลียอ้างกับวอยซ์ออกอเมริกาว่า เงินไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์สำหรับกองทัพโซมาเลียอย่างแน่นอน เพราะเงินเดือนสำหรับกองทัพนั้นน้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทางแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่โซมาเลียชี้ว่า ทางโมกาดิชูต้องทำการสอบสวนว่า ***เงินเกือบ 10 ล้านดอลลาร์นี้มีประสงค์เพื่อทำลายเสถียรภาพของโซมาเลียหรือไม่***
ซึ่งอัลญะซีเราะฮ์กล่าวชี้ว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างโซมาเลียและยูเออีนั้นตกต่ำมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา เมื่อทางโมกาดิชูขัดขืนต่อแรงกดดันจากซาอุฯและสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ในการตัดความสัมพันธ์กับนครรัฐกาตาร์ หลังจากทางชาติอ่าวอาหรับที่มีริยาดเป็นผู้นำกล่าวหาว่า กาตาร์ให้การสนับสนุนก่อการร้าย
โดยบีบีซี สื่ออังกฤษให้ข้อมูลว่า โมกาดิชูยอมสวามิภักดิ์ต่อกาตาร์และตุรกี แต่กลับมีพันธมิตรการค้าที่สำคัญคือ ซาอุฯและยูเออี พบว่าริยาดได้นำเข้าปศุสัตว์จากโซมาเลียถึง 80% ส่วนเมืองท่าดูไบ พบว่าตู้เย็น อุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องปรับอากาศ ต่างมีจุดหมายของการขนส่งไปที่โซมาเลีย
และในเดือนที่ผ่านมา กลายเป็นสิ่งที่ทางโซมาเลียรับไม่ได้เมื่อรัฐบาลอาบูดาบีตกลงที่จะให้การช่วยเหลือฝึกซ้อมรบแก่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของโซมาลีแลนด์ ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองที่ต้องการแยกตัวออกมาจากโซมาเลีย โดยโซมาลีแลนด์ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของโซมาเลีย
ซึ่งสื่อโซมาลีแลนด์ โซมาลีแลนด์เพรสรายงานในวันเสาร์(7)ว่า เป็นครั้งแรกที่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยอมรับหนังสือเดินทางประทับตราโซมาลีแลนด์ในการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมกับอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเออีสามารถออกวีซ่าให้กับหนังสือเดินทางของโซมาลีแลนด์ได้
ในรายงานของสื่อโซมาลีแลนด์เพรสยังชี้ว่า ประชาชนในโซมาลีแลนด์ที่ถือหนังสือเดินทางของโซมาลีแลนด์สามารถใช้เพื่อการเดินทางเข้าได้ในอีก 8 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย จิบูตี เบลเยียม อังกฤษ ฝรั่งเศส ซูดานใต้ และเคนยา
และพบว่าตุรกี เอธิโอเปีย จิบูตี และเคนยา มีที่ตั้งสำนักงานทางการทูตอยู่ในโซมาเลียแลนด์ที่ฮาร์เกซา ( Hargeisa)เมืองเอกของเขตปกครองตนเอง
ทั้งนี้ฐานะของโซมาเลียแลนด์นั้นเป็นรัฐปกครองตนเองในโซมาเลีย โดยชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ และรัฐบาลท้องถิ่นของโซมาลีแลนด์ถือว่า ตนเองเป็นผู้ปกครองที่รับอำนาจต่อมาจากอังกฤษประเทศเจ้าอาณานิคม ทำให้ทางโซมาลีแลนด์มีความต้องการที่จะแยกตัวออกมาจากประเทศโซมาเลีย ในขณะที่ภาษาราชการของโซมาลีแลนด์นั้นนอกจากภาษาโซมาลีแล้ว ยังมีภาษาอาหรับ และภาษาอังกฤษ
วิกีพีเดียระบุว่า โซมาลีแลนด์ได้ประกาศเอกราชจากโซมาเลียตั้งแต่ปี 2534 แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากนานาชาติ
สื่อกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ความร่วมมือกับโซมาลีแลนด์ พบว่าทางยูเออียังลงนามในสัญญา 30 ปีกับโซมาเลียแลนด์สำหรับการจัดการท่าเบอร์เบรา( Berbera Port) พร้อมยังเริ่มต้นสร้างฐานทัพขึ้นที่เมืองท่าแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโมกาดิชูปฎิเสธการบังคับใช้สัญญาดังกล่าวที่มีขึ้นระหว่าง อาบูดาบีและโซมาลีแลนด์ “โดยชี้ว่าไม่มีผลทางกฎหมายและไม่สามารถเกิดขึ้นได้” พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางองค์การสหประชาชาติเข้าจัดการ
เอกอัครราชทูตโซมาเลียประจำยูเอ็น อาบูการ์ ออสมาน(Abukar Osman) ได้กลางในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนที่ผ่านมาว่า ข้อตกลงระหว่างยูเออีและโซมาลีแลนด์ และทางยูเออีได้สร้างฐานทัพในเบอร์เบรานั้นเป็นที่แน่ชัดว่า “ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ”
และทางออสมานได้ขอให้ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อให้ความก้าวร้าวของยูเออีนั้นยุติ
ทั้งนี้พบว่า ไม่ใช่แค่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ต้องการตั้งฐานทัพขึ้นภายในโซมาลีแลนด์ แต่ทว่าในรายงานของสถาบันธิงแทงก์แคนาดา โกลบอลรีเสิร์ช ที่ออกมาในวันเสาร์(7) กล่าวว่า ดูเหมือนว่า รัสเซียมีความต้องการที่จะสร้างฐานทัพขึ้นในโซมาเลียแลนด์ด้วยเช่นกัน
โดยชี้ว่า หากว่ารายงานที่ยังไม่ได้ยืนยันนี้เป็นความจริง ก็เท่ากับว่าเป็นการชี้ว่า เครมลินต้องการสยายปีกทางกำลังทหารก้าวเข้ามาสู่ทวีปแอฟริกาอย่างแท้จริงเหมือนอย่างที่เคยประกาศไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
โกลบอลรีเสิร์ชชี้ว่า พบว่ามีรายงานระบุว่า ได้มีการพูดคุยเกิดขึ้นระหว่างมอสโกและเจ้าหน้าที่โซมาลีแลนด์ในการที่จะสร้างฐานทัพทางอากาศและนาวีขนาดเล็กที่บริเวณไซลาร์(Zeila) เมืองชายแดนติดจิบูตี เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ทางมอสโกจะยอมรับในการประกาศเอกราชแยกตัวจากโซมาเลีย
ซึ่งข่าวการหารือนี้พบว่ามีการกระจายไปทั่วเมื่อ 2 -3 วันก่อนหน้า
ทั้งนี้สถาบันธิงแทงก์แคนาดาชี้ว่า ยูเออีได้สร้างฐานทัพในโซมาลีแลนด์เช่นกันถึงแม้ทางยูเออียังไม่ยอมรับการเป็นเอกราชอย่างเป็นทางการของโซมาลีแลนด์ ซึ่งทางโกบอลรีเสิร์ชกล่าวว่า อาบูดาบีได้เข้ามามีบทบาททางการทหารเพิ่มขึ้นในบริเวณนี้และอีกทั้งทางยูเออีมีความร่ำรวยมากกว่าทางฝ่ายมอสโก