xs
xsm
sm
md
lg

สเปซเอ็กซ์ยิงจรวด “ฟอลคอน เฮฟวี” ทรงพลังที่สุดในโลกสำเร็จ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จรวด สเปซเอ็กซ์ ฟอลคอน เฮฟวี พุ่งออกจากฐานยิงที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 6 ก.พ.
เอเจนซีส์ - สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ประสบความสำเร็จในการยิงทดสอบจรวด “ฟอลคอน เฮฟวี” ที่มีพลังขับเคลื่อนสูงที่สุดในโลกแล้วเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสำหรับบริษัทเอกชนด้านธุรกิจขนส่งอวกาศของมหาเศรษฐีหมื่นล้าน อีลอน มัสก์ ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมจรวดของโลก

เสียงเชียร์จากผู้ชมนับพันดังกระหึ่มขึ้น เมื่อจรวดซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ถึง 27 ตัวพุ่งออกจากฐานยิงภายในศูนย์อวกาศเคนเนดี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา พร้อมกับนำรถสปอร์ตหรู “เทสลา โรดสเตอร์” สีแดงเชอร์รีขึ้นสู่วงโคจรใกล้ดาวอังคาร

“ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จตามที่ทุกคนคาดไว้” มัสก์ บอกกับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่ามันเป็นสิ่งที่ “น่าตื่นเต้นที่สุด” เท่าที่ตนเคยเห็นมา

จรวดขับดัน (booster) อย่างน้อย 2 ตัวได้แยกออกจาก ฟอลคอน เฮฟวี และกลับมาลงจอดที่ฐานยิงอย่างปลอดภัยในลักษณะตั้งตรง หลังออกเดินทางไปได้ราวๆ 8 นาที สะท้อนถึงความสำเร็จของสเปซเอ็กซ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีจรวดซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

“กีฬาโอลิมปิกชนิดใหม่ ลงจอดพร้อมกัน!” เรนดี เบรสนิก นักบินอวกาศของนาซา โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์

อย่างไรก็ตาม จรวดขับดันตัวที่ 3 ได้ตกลงสู่มหาสมุทร ห่างจากจุดลงจอดกลางทะเลที่สเปซเอ็กซ์เตรียมเอาไว้ประมาณ 100 เมตร

มัสก์ ระบุว่า หาก โรดสเตอร์ สามารถเดินทางผ่านพ้นบริเวณแถบรังสี Van Allen Belt ซึ่งเต็มไปด้วยประจุอนุภาคพลังสูงนอกเขตสนามแม่เหล็กโลกไปได้ จรวดก็จะปลดปล่อยพลังขับเคลื่อนขั้นสุดท้ายเพื่อมุ่งหน้าไปยังดาวอังคาร จากนั้น โรดสเตอร์ จะเข้าสู่วงโคจรรอบดวงอาทิตย์และเข้าใกล้ดาวอังคารมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเดินทางที่อาจกินเวลาถึง 1,000 ล้านปี และคิดเป็นระยะทางถึง 250 ล้านไมล์จากพื้นโลก

“มันอาจจะถูกพบโดยมนุษย์ต่างดาว และพวกเขาอาจถามว่า มนุษย์พวกนี้ทำอะไรกัน? พวกเขาบูชารถยนต์งั้นเหรอ?” มัสก์ ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การทดสอบครั้งนี้อาจทำให้นาซาหันมาพิจารณาใช้จรวด ฟอลคอน เฮฟวี ส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้ง หลังจากที่ว่างเว้นไปตั้งแต่ปี 1972

สเปซเอ็กซ์ ระบุว่า ฟอลคอน เฮฟวี ถือเป็นจรวดทรงพลังที่สุดเท่าที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่าจรวด เดลตา 4 เฮฟวี (Delta IV Heavy) ของ ยูไนเต็ด ลอนช์ อัลไลแอนซ์ (ULA) ถึง 2 เท่า แต่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าเพียง 90 ล้านดอลลาร์ต่อการเดินทาง 1 ครั้ง เมื่อเทียบกับ 350 ล้านดอลลาร์ของบริษัทคู่แข่ง

จรวดรุ่นนี้มีความยาวตลอดลำตัว 70 เมตร ถูกออกแบบให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้เกือบ 141,000 ปอนด์ (64 เมตริกตัน) หรือมากกว่าน้ำหนักของเครื่องบินโบอิ้ง 737 เมื่อบรรทุกเต็มพิกัด




รถสปอร์ต “เทสลา โรดสเตอร์” ซึ่งถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับจรวด ฟอลคอน เฮฟวี
จรวดขับดันด้านข้าง (side boosters) 2 ตัวกลับมาลงจอดที่ฐานยิงในศูนย์อวกาศเคนเนดี หลังจากที่ช่วยส่งจรวด ฟอลคอน เฮฟวี ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศระดับสูง







กำลังโหลดความคิดเห็น