เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันดีดขึ้นต่อเนื่องในวันพุธ (10 ม.ค.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ลดลงเกินคาดหมาย ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ส่วนทองคำฟื้นตัว หลังจากขยับลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 61 เซ็นต์ ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ 69.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (10 ม.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 มกราคม ลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราวๆ 3.5 ล้านบาร์เรล
แต่อีกด้านหนึ่ง อีไอเอเผยว่าสต๊อกเบนซิน เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล และ 2.1 ล้านบาร์เรลตามลำดับ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (10 ม.ค.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบปี 2018 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)
ดาวโจนส์ ลดลง 16.67 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,369.13 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.06 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,748.23 จุด แนสแดค ลดลง 10.01 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,153.57 จุด
หุ้นของหลายบริษัทที่ได้ประโยชน์จาก NAFTA ร่วงลงอย่างแรง หลังรอยเตอร์รายงานว่าเจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายมากขึ้นว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะละทิ้งข้อตกลงการค้าเสรีนี้
ขณะเดียวกัน ตลาดยังกังวลต่อรายงานข่าวของบลูมเบิร์ก ที่ระบุว่าจีน ผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดของโลก อาจชะลอหรือยุติการซื้อพันธบัตรของอเมริกา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (10 ม.ค.) ฟื้นตัวจากที่ขยับลงต่อเนื่องเมื่อเร็วๆ นี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,319.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์