มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปิดลบเล็กน้อยวันพุธ (24 พ.ค.) หลังสต๊อกเบนซินลดลงน้อยกว่าที่คาด ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นและทองคำปรับลด 2 วันติด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 11 เซ็นต์ ปิดที่ 51.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 19 เซ็นต์ ปิดที่ 53.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (24 พ.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 พฤษภาคม ลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราว 2.4 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันถูกกดดันจากตัวเลขคลังน้ำมันเบนซินสำรองที่ลดลงเพียง 787,000 บาร์เรล ทั้งที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะลดลงถึง 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันพวกนักลงทุนยังเฝ้ารอผลลัพธ์การหารือในกรุงเวียนนา ระหว่างโอเปกและประเทศนอกโอเปกว่าจะขยายกรอบเวลาข้อตกลงลดกำลังผลิตหรือไม่
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (24 พ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่เอสแอนด์พี 500 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังธนาคารกลางอเมริกาเผยแพร่รายงานการประชุมหนล่าสุด ที่เผยให้เห็นว่าเหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายมองเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้
กระนั้นในรายงาน minutes ของการประชุมเมื่อวันที่ 2-3 พฤษภาคม คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ยังเห็นพ้องกันจะระงับการขึ้นดอกเบี้ยใดๆไปจนกว่าจะทราบแน่ชัดว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวเมื่อเร็วๆนี้เป็นเพียงชั่วคราว
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 74.51 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,021.42 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.97 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,404.39 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 24.31 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,163.02 จุด
วอลล์สตรีทซื้อขายผันผวนหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการประชุม แต่ท้ายที่สุดก็แกว่งตัวปิดบวกเล็กน้อย จากแรงหนุนของกลุุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (24 พ.ค.) ปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากแรงกดดันของความคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์