รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - อัยการญี่ปุ่นใช้เวลาในวันจันทร์(18 ธ.ค)และวันอังคาร(19 ธ.ค)บุกค้นบริษัทก่อสร้างชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่น 4 แห่ง บริษัทคาจิมา คอร์ป บริษัทชิมิซุ คอร์ป บริษัทโอบายาชิ คอร์ป และบริษัทไทเซ คอร์ป ชี้แอบสมรู้ร่วมคิดวางแผนเพื่อชนะการประมูลโครงการรถไฟพลังเม่เหล็ก แม็กเลฟ(Maglev)ของเจอาร์ โตไกมูลค่าโครงการ 9 ล้านล้านเยน หรือ 80 พันล้านดอลลาร์ เส้นทางโตเกียว-โอซาก้า พบ 1 ใน 4 ยอมรับผิดกับคณะกรรมการปกป้องความเป็นธรรมทางการค้าญี่ปุ่น และมีเจ้าหน้าที่ของการเดินรถไฟญี่ปุ่นแอบให้ข้อมูลราคาประเมินล่วงหน้า
รอยเตอร์รายงานวันนี้(19 ธ.ค.)ว่า สำนักงานอัยการเขตโตเกียวเข้าบุกค้นสำนักงานใหญ่บริษัทก่อสร้างไทเซ คอร์ป(Taisei Corp) และบริษัทโอบายาชิ คอร์ป(Obayashi Corp ) ในวันอังคาร(19) หลัง 1 วันก่อนหน้าทางสำนักงานบุกเข้าค้นสำนักงานใหญ่บริษัทก่อสร้างคาจิมา คอร์ป(Kajima Corp) และบริษัทสถาปัตย์และก่อสร้าง ชิมิซุ คอร์ป (Shimizu Corp) ในความผิดรวมหัวฮั้วประมูลเพื่อชนะโครงการรถไฟแม่เหล็กแม็กเลฟ(Maglev)
ซึ่งอ้างอิงจากนิเคอิเอเชีย สื่อธุรกิจญี่ปุ่นพบว่า คาจิมา คอร์ป และชิมิซุ คอร์ป ถูกเข้าบุกค้นในความผิดละเมิดกฎหมายปกป้องความเป็นธรรมทางการค้าญี่ปุ่น ส่วนบริษัทที่เหลืออีก 2 แห่งที่ถูกบุกค้นในวันนี้(19) ทางนิเคอิเอเชียเชื่อว่า จะถูกทำคดีสอบการละเมิดกฎหมายปกป้องความเป็นธรรมด้วยเช่นกันหลังจากนี้
ทั้งนี้อ้างอิงจากเจแปนไทม์ส สื่อญี่ปุ่นพบว่า การบุกเข้าค้นครั้งใหญ่ตลอด 2 วันติด เป็นผลมาจากการสอบสวนพิเศษที่มีการจับมือร่วมกันระหว่างสำนักงานอัยการเขตโตเกียวและคณะกรรมการปกป้องความเป็นธรรมทางการค้าญี่ปุ่น( Japan Fair Trade Commission )
โดยในการสอบสวนเชื่อว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมการก่อสร้างชื่อดังทั้ง 4 ของแดนอาทิตย์อุทัยละเมิดกฎหมายปกป้องความเป็นธรรมทางการค้าด้วยการวางแผนสมยอมเพื่อให้ได้สัญญามูลค่า 9 ล้านล้านยน หรือราว 80 ล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟพลังแม่หล็ก แม็กเลฟ(Maglev) ที่จะสามารถร่นระยะเวลาการเดินทางการโดยสารทางรถไฟหัวกระสุนชินกังเซนเส้นทางโกเกียว-โอซากาได้ประมาณ 1 ช.ม ซึ่งพบว่ามีสำนักงานการเดินรถไฟส่วนกลางญี่ปุ่น หรือที่รู้จักในนาม เจอาร์ โตไก (JR Tokai) เป็นเจ้าของโปรเจกต์
ทั้งนี้จากการรายงานของเจแปนไทม์สวันนี้(19) พบว่า ทางโอบายาชิ คอร์ปได้ยอมรับสารภาพกับทางคณะกรรมการฯว่าได้ละเมิดกฎหมายปกป้องความเป็นธรรมการค้าญี่ปุ่นจริงในการประมูล แหล่งข่าวให้ข้อมูลในวันอังคาร(19)
ซึ่งในการรับสารภาพทางโอบายาชิ คอร์ปยังโยงไปถึงบริษัทก่อสร้างชื่อดังอีก 3 บริษัทที่ถูกเข้าบุกค้นว่า ได้ทำการร่วมมือกับบริษัทก่อสร้างชื่อดังเหล่านี้ เพื่อให้ทางโอบาายาชิ คอร์ปไม่ต้องจ่ายค่าปรับภายใต้กฎที่เคร่งครัดของทางคณะกรรมการปกป้องความเป็นธรรมทางการค้าญี่ปุ่น
ทั้งนี้ในการสอบสวน ทางสำนักอัยการเขตโตเกียวต้องการทราบว่า บริษัทก่อสร้างทั้ง 4 สามารถชนะการประมูลยื่นซอง ได้ถึง 15 สัญญาการประมูลจากทั้งหมด 22 สัญญาการประมูลของทางเจอาร์ โตไกได้อย่างไร
ในรายงานพบว่า ทั้งโอบาบาชิ คอร์ป ชิมิซุ คอร์ป และไทเซ คอร์ป แต่ละบริษัทต่างชนะการประมูลแบบยื่นซอง 4 สัญญา ในขณะที่ทางคาจิมา คอร์ปชนะการประมูลแบบยื่นซอง 3 สัญญาในการก่อสร้างส่วนอื่นของโครงการรถไฟแม็กเลฟ
เจแปนไทม์สรายงานว่า โอบายาชิ คอร์ปเคยถูกเข้าบุกค้นก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนนี้ และพบว่าผู้บริหารจากบริษัทก่อสร้างทั้ง 4 แห่งถูกเรียกตัวให้เข้าข้อมูลแบบสมัครใจ
ในรายงานวันอาทิย์(17) แหล่งข่าวเปิดเผยกับเจแปนไทม์สว่า เจ้าหน้าที่ของเจอาร์ โตไกถูกตั้งข้อสงสัยถึงการแอบรั่วข้อมูลของทั้งราคาประเมินการก่อสร้าง และข้อมูลลับที่ไม่เปิดเผยเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ ไปให้กับทางโอบายาชิ คอร์ป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าทางโอบายาชิได้แชร์ข้อมูลให้กับคู่แข่ง คาจิมา คอร์ป
ซึ่งการรั่วข้อมูลนี้ พบว่าเจ้าหน้าที่เจอาร์ โตไก 1 รายยอมรับสารภาพผิดว่า ***ได้เปิดเผยข้อมูลให้ทางโอบายาชิ คอร์ปจริง*** ในระหว่างถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนในการสอบสวนพิเศษ แหล่งข่าวชี้ โดยแหล่งข่าวยังเปิดเผยต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่รายนี้ได้ให้ทั้งราคาประเมินการก่อสร้างและข้อมูลลับของโครงการต่อทั้งโอบายาชิ คอร์ป และคาจิมา คอร์ป ในระหว่างเฟสที่ 2ของการประมูล
โดยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโอบายาชิ คอร์ปกล่าวให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “บางครั้งผู้ประมูลได้รับข้อมูลราคาประเมิน และการต่อรองจะเริ่มขึ้นเพื่อให้ได้ราคาลงไปจนถึงจุดนั้น ซึ่งทำให้เชื่อว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะผิดกฎหมาย” ซึ่งทางนิเคอิเอเชียอธิบายว่า ธรรมเนียมปฎิบัติการฮั้วประมูลเกิดขึ้นในญี่ปุ่นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำหรือในสถานการณ์ที่มีการจัดการยุ่งยากต่อบริษัทผู้ที่เข้าร่วมประมูล
แต่ทว่าในสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดก่อสร้างญี่ปุ่น พบว่ามีความสดใสเนื่องมาจากวิกฤตสึนามิที่ฟูกุชิมะทำให้การก่อสร้างเติบโต บวกกับการที่โตเกียวจะเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกปี 2020 ซึ่งโครงการรถไฟแม่เหล็กแม็กเลฟที่มีมูลค่าการก่อสร้างตลอดทั้งโครงการจำนวนมหาศาลถึง 5.5 ล้านล้านเยน โดยพบว่าจากทั้งหมดมีถึง 4 ล้านเยนในอยู่ในส่วนของงานวิศวกรรมโยธา อ้างอิงตัวเลขทั้งหมดจากนิเคอิเอเชีย
ทั้งนี้พบว่าโครงการนี้มีเส้นทางเชื่อมโตเกียวและนาโกยา คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้หลังปี 2027 ไปแล้ว และเส้นทางการวิ่งจะถูกเชื่อมต่อไปถึงโอซากาได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2037
รอยเตอร์รายงานต่อว่า พบว่าบริษัทก่อสร้างทั้ง 4 แห่ง ถูกผลกระทบอย่างแรงหลังคดีฉาวรวมหัวฮั้วประมูลตกเป็นข่าว ซึ่งพบว่าราคาหุ้นของไทเซ คอร์ปตกไป 5.3% ในขณะที่ทางโอบายาชิ คอร์ป ตกไป 3% ส่วนทางชิมิซุ คอร์ป พบว่าร่วงไป 3.2% และคาจิมา คอร์ป หุ้นร่วงหนักไปมากกว่า 5.6%