เอเจนซีส์ - ในการประท้วงที่เกิดขึ้นน้อยครั้งในเอริเทรีย สมาชิกการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเอริเทรีย "องค์กรประชาธิปไตยทะเลแดงจากไกลโพ้น" ซึ่งมีฐานอยู่ในเอธิเปียได้ออกมาให้ข้อมูลเมื่อวานนี้(1 พ.ย)ว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฝ่ายรัฐบาลเอทริเซียสังหารผู้ประท้วงกลางกรุงแอสมาราในวันอังคาร(31 พ.ย)ไปถึง 28 คน บาดเจ็บอีกร่วมร้อย หลังมีคนไม่ต่ำกว่า 40 ถูกจับหลังปะทะ และมีรายงานสัญญาณอินเตอร์เนตถูกตัดลง
ดีดับเบิลยู สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(1 พ.ย)ว่า มีรายงานการเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง และมีผู้บาดเจ็บเกิดขึ้นในการประท้วงกลางกรุงแอสมาราในวันอังคาร(1 พ.ย)
โดยหนึ่งในสมาชิกกลุ่มฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาลเอริเทียออกมาอ้างในวันถัดมา(1 พ.ย)ว่า มีผู้ประท้วงจำนวน 28 คนเสียชีวิตด้วยฝีมือเจ้าหน้าที่ และมีผู้ถูกจับกุมจำนวนหลายสิบคนเกิดขึ้น
นาสเรดิน อาลี(Nasredin Ali) จากองค์กรประชาธิปไตยทะเลแดงจากไกลโพ้น (Red Sea Afar Democratic Organization) กล่าวว่า “ผลของการประท้วงที่เกิดขึ้นนั้นมหาศาล”
ซึ่งจากการแถลงของทางกลุ่มที่ผ่านทางเฟซบุ๊กในวันพุธ(1 พ.ย) อ้างอิงจากอัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ ทางกลุ่มกล่าวว่า “การรุกขึ้นสู้ในครั้งนี้ทำให้มีผู้สละชีพไปถึง 28 คน และบาดเจ็บราว 100 คน...ทางเราร้องให้ประชาคมนานาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆได้นำคนที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษ”
ในรายงานของสื่อกาตาร์ ชี้ว่า การประท้วงปะทุขึ้นในวันอังคาร(31 พ.ย)หลังจากรัฐบาลเอริเทียได้ออกคำสั่งให้โรงเรียนศาสนาอิสลามห้ามการสวมผ้าคลุมศรีษะทางศาสนาและไม่อนุญาตให้มีการจัดศึกษาทางศาสนาเกิดขึ้น
ทั้งนี้พบว่าความรุนแรงได้เกิดขึ้นในบริเวณชุมชนมุสลิมที่เอคริยา(Akriya) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนทางศาสนาอิสลามเดียอา( Diaa )แห่งแอสมาราซึ่งมีนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ถึง 3,000 คน
ซึ่งพบว่าในการประท้วง มีกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนสอนศาสนาแห่งนี้เข้าร่วม และฝูงชนก็เพิ่มมากขึ้นตามหลัง
***โดยสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงแอสมาราได้ออกมายืนยันรายงานการเสียชีวิตในการประท้วง*** อัลญะซีเราะฮ์ชี้
ทั้งนี้ดีดับเบิลยูและวีโอเอ สื่อสหรัฐฯรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯได้ออกประกาศในวันอังคาร(31 พ.ย)ว่า ได้รับรายงานการยิงเกิดขึ้นในหลายจุด ซึ่งมีการประท้วงที่บริเวณใจกลางกรุงแอสมารา โดยทางสถานทูตกล่าวว่า “ถนนในบริเวณย่านใจกลางเมืองอาจปิดลง และยังคงมีการปรากฎตัวของกองกำลังตำรวจอย่างแน่นหนา”
นาสเรดินได้กล่าวว่า ผลจากการที่ปฎิเสธรัฐบาลเอริเทรีย ที่ต้องการเข้าควบคุมโรงเรียนของชุมชนมุสลิมในกรุงแอสมารา ส่งผลทำให้มีการปะทะเกิดขึ้น และมีผู้ถูกจับกุมจำนวน 40 คน และนำมาสู่การประท้วงใหญ่ในเวลาต่อมา
และได้กล่าวถึงบรรยากาศของกรุงแอสมาราในวันพุธ(1 พ.ย)ว่า ยังอยู่ในบรรยากาศที่ตรึงเครียด ท่ามกลางพิธีศพที่ได้เริ่มต้นขึ้น “กองทัพได้นำกองกำลังมาจากนอกกรุงแอสมารา” นาสเรดินกล่าว วีโอเอรายงาน
ด้านสื่อแอฟริกานิวส์รายงานเมื่อวานนี้(1 พ.ย)ว่า ทางกองทัพเอริเทรียได้เริ่มจับกุมประชาชน มีรายงานการตัดสัญญาณอินเตอร์เนต โดยชี้ว่าในช่วงข้ามคืนทางกองทัพได้ทำการรวบตัวไว้จำนวนหนึ่ง แต่ในรายงานไม่มีการเปิดเผยจำนวน
แต่อย่างไรก็ตาม เยมาน เมสเคล(Yemane Meskel) รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลเอริเทรีย ไม่พยายามทำให้การประท้วงวันอังคาร(31 พ.ย) เป็นเรื่องใหญ่ โดยได้อ้างผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “เกิดการประท้วงเล็กๆขึ้นโดยโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงแอสมาราโดยไม่มีการสูญเสีย แทบไม่เคยเกิดขึ้นในรายงานข่าวด่วน”
โดยในการรายงานของวีโอเอในวันพุธ(1 พ.ย)ได้ให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในการประท้วงเอริเทรียว่า มีไม่ต่ำกว่า 6 คน