พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธาน กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค) เปิดเผยว่า การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านอินเตอร์เนตบนมือถือ หรือ mobile broadband จะมีการครอบคลุมประชากรเกินร้อยละ 80 ทั่วประเทศ ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ 3G และ 4G ได้อย่างทั่วถึงและกว้างขวาง โดยจากรายงานของ GSMA พบว่า ยอดผู้ใช้ 4G ทั่วโลกปีนี้ มีจำนวนประมาณ 700 ล้าน และจะมีการก้าวกระโดดถึงกว่า 1.3 พันล้าน ในปีหน้า จากการที่มีแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมทั้งจะมีการดูเนื้อหาหรือ content ในรูปแบบวีดีโอและดูทีวีอินเตอร์เนตที่สูงขึ้นอย่างมหาศาล ด้วยเหตุผลดังที่กล่าว จึงคาดการณ์ว่าปริมาณ Data traffic ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในปีหน้านับจากวันนี้ และจะเพิ่มขึ้น 600 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2020
ขณะเดียวกันอีก 4-5 ปี นับจากนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G จะเริ่มอยู่บนตำแหน่ง S curve ที่อิ่มตัว และ 4G กำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ และในช่วงเวลานั้นเอง ในปี 2020 ตามแผนที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียูคาดหวังไว้ว่า 5G จะถูกเปิดตัวในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ กทค. เห็นว่าขั้นต่อไปประเทศไทยควรมีการผลักดันต่อยอดจากโครงข่ายที่มีอยู่และกำลังจะสร้างขึ้น คือเรื่องการขยายบริการการเงินโดยทั่วถึง(Financial Inclusive)จะสามารถสนับสนุนธุรกิจ SME และประชาชนผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การกำกับดูแลในเรื่องนี้จะต้องมีความร่วมมือกันของธุรกิจการเงินการธนาคารกับธุรกิจโทรคมนาคมการกำกับดูแลจะต้องระวังไม่ให้เกิดการทับซ้อนอันนำไปสู่อุปสรรคในการดำเนินการได้
อย่างไรก็ตาม กทค. จะนัดหารือกับผู้บริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู ต่อไป เพื่อแสวงหาแนวทางการกำหนดนโยบายเรื่องนี้เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง
ขณะเดียวกันอีก 4-5 ปี นับจากนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G จะเริ่มอยู่บนตำแหน่ง S curve ที่อิ่มตัว และ 4G กำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ และในช่วงเวลานั้นเอง ในปี 2020 ตามแผนที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียูคาดหวังไว้ว่า 5G จะถูกเปิดตัวในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ กทค. เห็นว่าขั้นต่อไปประเทศไทยควรมีการผลักดันต่อยอดจากโครงข่ายที่มีอยู่และกำลังจะสร้างขึ้น คือเรื่องการขยายบริการการเงินโดยทั่วถึง(Financial Inclusive)จะสามารถสนับสนุนธุรกิจ SME และประชาชนผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การกำกับดูแลในเรื่องนี้จะต้องมีความร่วมมือกันของธุรกิจการเงินการธนาคารกับธุรกิจโทรคมนาคมการกำกับดูแลจะต้องระวังไม่ให้เกิดการทับซ้อนอันนำไปสู่อุปสรรคในการดำเนินการได้
อย่างไรก็ตาม กทค. จะนัดหารือกับผู้บริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู ต่อไป เพื่อแสวงหาแนวทางการกำหนดนโยบายเรื่องนี้เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง
