xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ อนุมัติติดปีกเพิ่มแสนยานุภาพขีปนาวุธเกาลีใต้ หลังโสมแดงยิงจรวดข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เห็นพ้องในวันศุกร์ (1 ก.ย.) จะเพิ่มแสนยานุภาพขีปนาวุธของโซล ไม่กี่วันหลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามท้องฟ้าญี่ปุ่นและขู่ว่าจะยิงอีก ตามรายงานของสำนักงานยอนฮับ

ชาติคอมมิวนิสต์ยิงปีนาวุธพิสัยปานกลางฮวาซอง-12 (Hwasong-12) ข้ามท้องฟ้าญี่ปุ่นเมื่อวันอังคาร (29 ส.ค.) ที่ผ่านมา พร้อมบอกว่ามันเป็นเพียงแค่การโหมโรงของมาตรการตอบโต้อันแน่วแน่ของเกาหลีเหนือต่อการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้

การยิงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงท้ายของการซ้อมรบร่วมประจำ Ulchi Freedom Guardian เป็นเวลา 10 วันระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าเป็นการเตรียมพร้อมรุกรานประเทศของพวกเขา

ต่อมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนกรานว่า “ทุกทางเลือก” ยังวางอยู่บนโต๊ะ ขู่เป็นนัยๆว่าอาจชิงลงมือทางทหารก่อน ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) เครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินล่องหนของอเมริกาเข้าร่วมซ้อมรบกระสุนจริงในเกาหลีใต้ เพื่อสำแดงแสนยานุภาพข่มขวัญเปียงยาง

ยอนฮับรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดี ระบุว่าในการพูดคุยทางโทรศัพท์วันศุกร์ (1 ก.ย.) ทรัมป์และประธานาธิบดีมุน แจ-อิน แห่งเกาหลีใต้ เห็นพ้องยกระดับการป้องปรามเกาหลีเหนือของโซล ด้วยการเสริมศักยภาพทางขีปนาวุธ

“ทั้งสองผู้นำเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมความเข้มแข็งแก่แสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองของเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้การยั่วยุและภัยคุกคามใดๆ จากเกาหลีเหนือ และบรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับแก้ไขแนวปฏิบัติด้านการป้องกันประเทศ ที่จะเพิ่มความหวังแก่ฝ่ายเกาหลีใต้” ยอนฮับอ้างคำพูดของโฆษกทำเนียบประธานาธิบดี

ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังจากเปียงยางยิงทดสอบขีปนาวุธหลายต่อลายครั้ง ขณะที่ประธานธิบดีมุน แจ-อิน เคยเรียกร้องเกี่ยวกับการผ่อนปรนข้อจำกัดทางขีปนาวุธของโซล ในการสนทนากับทรัมป์คราวก่อนๆ

ปัจจุบัน โซล ได้รับอนุญาตให้ครอบครองขีปนาวุธพิสัยทำการแค่ 800 กิโลเมตร และบรรทุกสูงสุด 500 กิโลเมตร แต่พวกเขาต้องการเพิ่มข้อจำกัดน้ำหนักบรรทุกเป็น 1,000 กิโลกรัม ซึ่งก่อนหน้านี้เพนตากอนก็เคยยอมรับ่าพวกเขากำลังพิจารณาข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างกระตือรือร้น

นอกจากนี้แล้วยังมีข้อเรียกร้องเพิ่มขึ้นในโซล สำหรับขอสร้างอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองเพื่อปกป้องประเทศ ในขณะที่เหตุเผชิญหน้าระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของเปียงยางชักลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ

เกาหลีใต้ ซึ่งมีทหารสหรัฐฯประจำการคอยคุ้มกัน 28,500 นาย ถูกแบนจากการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง ภายใต้ข้อตกลงพลังงานปรมาณูฉบับหนึ่งในปี 1974 ที่พวกเขาลงนามกับวอชิงตัน โดยข้อตกลงนี้ อเมริกาจะใช้ระบบคุ้มกันนิวเคลียร์ (nuclear umbrella) ป้องกันเกาหลีใต้จากการโจมตีใดๆ

ยอนฮับรายงานด้วยว่าทั้งสองผู้นำได้ย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องดึงเปียงยางคืนสู่โต๊ะเจรจา ผ่านมาตรการคว่ำบาตรและการกดดันอย่างหนักหน่วงที่สุด แม้ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยบอกว่าการพูดคุยกับเปียงยาง “ไม่ใช่คำตอบ”
กำลังโหลดความคิดเห็น