รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ให้สัมภาษณ์แบบเปิดอกกับหนังสือพิมพ์เมืองเบียร์ เวลต์ อัม ซอนน์ทาก (Welt am Sonntag) ฉบับวันอาทิตย์ (27 ส.ค.) ยืนกรานถึงการตัดสินใจเปิดประเทศให้กับผู้อพยพปี 2015 นั้นไม่ใช่เป็นความผิดพลาด ถึงแม้ว่าจะส่งผลต่อการเมืองภายในพรรคสายอนุรักษ์ของตัวเอง และทำให้ความนิยมทางการเมืองตกต่ำ
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ว่า 4 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปเยอรมนีในวันที่ 24 ก.ย.ที่จะถึง สำนักโพลเอมนิด (Emnid) ได้ออกทำการสำรวจความนิยมทางการเมือง โดยเปิดเผยล่าสุดวันอาทิตย์( 27 ส.ค) ที่ชี้ไปในทิศทางว่า พรรคคอนเซอร์เวทีฟ คริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน CDU ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล จะชนะ 38% หรือ 15 จุดเหนือคู่แข่งพรรคกลางซ้าย โซเชียล เดโมแครต SPD
รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นผลความนิยมที่เพิ่มขึ้นจาก 32% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 แต่กระนั้นยังคงต่ำกว่า 41.5% ที่พรรคแมร์เคิลชนะในการเลือกตั้งล่าสุดเมื่อปี 2013
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เวลต์ อัม ซอนน์ทาก (Welt am Sonntag) ฉบับวันอาทิตย์ (27) ผู้นำหญิงเยอรมนีกล่าวว่า “ดิฉันเลือกที่จะตัดสินใจเหมือนเดิมอีกครั้งกับที่ได้เคยตัดสินใจในปี 2015 ต่อทุกเรื่องที่สำคัญ” และกล่าวว่า “มันสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา และดิฉันตัดสินใจบนพื้นฐานจากสิ่งที่ดิฉันได้คำนึงแล้วว่าถูกต้องตั้งแต่ทางการเมืองไปจนถึงด้านมนุษยธรรม”
โดยในการให้สัมภาษณ์ แมร์เคิลได้กล่าวยืนยันถึงสถานการณ์พิเศษในปี 2015 ว่า “สถานการณ์ที่พิเศษเหล่านั้นมักจะปรากฏขึ้นในช่วงประวัติศาสตร์ของประเทศ” และเสริมว่า “แต่หัวหน้ารัฐบาลจำเป็นต้องตัดสินใจ และดิฉันได้ทำเช่นนั้น”
รอยเตอร์ชี้ว่า ผลสะท้อนกลับจากนโยบายเปิดประเทศรับผู้อพยพจากซีเรียและอิรักเข้าเยอรมันจำนวนหลายล้านคนในปี 2015 ส่งผลทำให้ความนิยมในตัวพรรคการเมืองขวาจัดเยอรมัน พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมัน AfD ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสำนักโพลสำรวจชี้ว่า เชื่อว่าพรรค AfD จะชนะถึง 10% ในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึงในวันที่ 24 ก.ย.นี้
ในการให้สัมภาษณ์ แมร์เคิลที่ถูกผู้ประท้วงต่อต้านอย่างหนักจากนโยบายผู้อพยพของเธอตามเวทีหาเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านเกิดของเธอทางเยอรมันตะวันออกซึ่งเคยอยู่ภายใต้การปกครองแบบลัทธิคอมมิวนิสต์มาก่อน ได้กล่าวว่า “พวกเราเป็นประชาธิปไตย และทุกคนสามารถมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะตามแบบที่ต้องการได้”
แมร์เคิลกล่าวต่อว่า “แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องไม่พยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่เข้าไปบางพื้นที่ จากเหตุผลแค่ว่ามีคนจำนวนมากรวมตัวร้องป่าวประกาศแสดงความต้องการออกมา”
ทั้งนี้ พบว่าความนิยมในพรรคคริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน CDU ของแมร์เคิลและในตัวผู้นำหญิงเพิ่งเริ่มฟื้นขึ้นมาหลังจากการไหลเข้าประเทศของผู้อพยพในปี 2016 เริ่มช้าลงไปอยู่ที่ 280,000 คน และต่ำลงมาอยู่ที่ระดับ 106,000 คนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้
นายกรัฐมนตรีเยอรมนียืนยันถึงปัญหาผู้อพยพเข้ายุโรป และประเทศสมาชิกอียูที่ต้องแบกรับว่า เธอเชื่อว่าจะไม่เป็นธรรมหากว่าปล่อยให้ทั้งกรีซและอิตาลีซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านต้องแบกรับการไหลเข้าเพียงลำพัง โดยอ้างเหตุผลทางภูมิศาสตร์เท่านั้น โดยแมร์เคิลยืนยันว่าเธอจะเดินหน้าต่อผลักดันเพื่อให้เกิดการแบ่งรับภาระจำนวนผู้อพยพอย่างยุติธรรมทั่วทั้งสหภาพยุโรปให้ได้
“กลุ่มประเทศสมาชิกเหล่านั้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยนั้นขัดแย้งต่อจิตวิญญาณความเป็นยุโรป เราจะต้องเอาชนะให้ได้ ที่เชื่อว่าต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทนแต่เราจะเอาชนะได้ในที่สุด” รายงานจากการให้สัมภาษณ์ของอังเกลา แมร์เคิล