เอเจนซีส์ - กลุ่มผู้ประท้วงประมาณ 200 คน ซึ่งมีหลายคนที่สวมหน้ากาก ได้ฝ่าแนวป้องกันของตำรวจบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของประเทศมาเซโดเนีย พร้อมทั้งทำร้ายสมาชิกรัฐสภา
กลุ่มผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) พากันตะโกนเสียงดังและขว้างปาเก้าอี้ รวมถึงทำร้ายสมาชิกรัฐสภา ในจำนวนผู้ที่ถูกทำร้ายนั้นมีแกนนำฝ่ายค้าน “โซรัน ซาเยฟ” รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก “โซเชียล เดโมแครต” ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน กับบรรดาผู้แทนชนกลุ่มน้อยเชื้อสายแอลเบเนียที่อยู่ในมาเซโดเนียได้โหวตเลือกประธานสภาคนใหม่
ภาพทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่า ซาเยฟมีเลือดไหลที่บริเวณหน้าผาก ส่วนสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ล้วนถูกล้อมโดยกลุ่มผู้ประท้วงที่กำลังโบกธงชาติพร้อมกับตะโกนว่า “คนทรยศ” ทั้งยังไม่ยอมให้สมาชิกรัฐสภาเหล่านั้นออกจากห้อง
ในเวลาต่อมา ตำรวจได้ใช้ระเบิดแสงเพื่อจะสลายกลุ่มผู้ประท้วงบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา และเคลียร์เส้นทางสำหรับอพยพนักการเมืองที่ยังคงติดอยู่ในอาคารรัฐสภา
ประธานาธิบดีจอร์จ อิวานอฟ ได้กล่าวผ่านทางโทรทัศน์ เรียกร้องให้อยู่ในความสงบ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ ขอให้กระทำตัวอย่างมีความรับผิดชอบและมีเหตุผล พร้อมทั้งบอกด้วยว่า เขาได้เรียกบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ให้มาประชุมกันในวันศุกร์
มาเซโดเนียไม่มีรัฐบาลมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพรรคการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรีชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่มีเสียงสนับสนุนมากพอที่จะจัดตั้งฝ่ายบริหาร
การพูดคุยเรื่องตั้งรัฐบาลผสมของพรรคที่ชนะเลือกตั้งนั้นพังลง เพราะข้อเรียกร้องของคนเชื้อสายแอบเบเนียที่อยากให้ภาษาแอลเบเนียได้รับการรับรองเป็นภาษาทางการลำดับที่สองของมาเซโดเนีย ประเทศที่มีประชากรราว 1 ใน 4 มีเชื้อสายแอลเบเนีย
ด้านซาเยฟนั้นหาหนทางที่จะขอสิทธิ์ตั้งรัฐบาลมาหลายเดือนแล้ว โดยได้บรรลุข้อตกลงกับ “เดโมเครติก ยูเนียน” ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของคนเชื้อสายแอลเบเนีย ให้มาจับมือกันร่วมตั้งรัฐบาลผสม อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอิวานอฟไม่ยอมให้เขาได้สิทธิ์นั้น
การประชุมรัฐสภาของมาเซโดเนียนั้นเจอทางตันมานานราว 3 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากยังไม่มีการเลือกประธานสภา โดยทางซาเยฟได้เสนอว่าให้เลือกด้วยวิธีที่ต่างไปจากวิธีปกติ แต่แนวคิดนั้นถูกปฏิเสธจากพรรคอนุรักษนิยมที่มองว่าเป็นความพยายามยึดอำนาจ