รอยเตอร์ - กองกำลังฝ่ายรัฐบาลอิรักสามารถตีคืนพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมืองตอล อะฟาร์ ที่มั่นสำคัญของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) บริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ กองทัพอิรักแถลงในวันอาทิตย์ (27 ส.ค.)
หลังจากเปิดฉากการรุกมาได้เพียง 8 วัน ฝ่ายรัฐบาลก็สามารถตีชิงเขตที่อยู่อาศัยทั้ง 29 เขตในเมืองตอล อะฟาร์ (Tal Afar) คืนมาจากกลุ่มไอเอส กองทัพอิรักระบุในคำแถลง
อย่างไรก็ตาม การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ในพื้นที่ อัล-อายะดิยะ ซึ่งเป็นบริเวณเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 11 กิโลเมตร และพวกนักรบไอเอสที่หลบหนีมาจากเขตใจกลางเมืองกำลังไปหลบซ่อนกันอยู่ที่นั่น พลจัตวา ยาห์ยา ราซูล โฆษกของกองทัพอิรักระบุ โดยกล่าวว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลอิรักกำลังรอที่จะตีบริเวณดังกล่าวคืนมา ก่อนที่จะประกาศว่าได้ชัยชนะอย่างสมบูรณ์
ตอล อะฟาร์ กลายเป็นเป้าหมายล่าสุดในสงครามต่อสู้ปราบปรามกลุ่มไอเอสที่สหรัฐฯให้การหนุนหลัง ภายหลังจากสามารถยึดคืนเมืองโมซุลที่หลายบริเวณอยู่ในสภาพเป็นซากปรักหักพัง กลับคืนมาได้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โมซุลนั้นเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก และก็เป็นสถานที่ซึ่งไอเอสประกาศจัดตั้ง “รัฐกาหลิบ” แบบอิสลามขึ้นมาในปี 2014 โดยมีพื้นที่คร่อมอยู่ระหว่างอิรักกับซีเรีย
การรุกตีเมืองตอล อะฟาร์ ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางลำเลียงระหว่างโมซุลกับพรมแดนซีเรีย เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม เชื่อกันว่ายังเหลือนักรบไอเอสไม่เกิน 2,000 อยู่รักษาเมือง ขณะที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลที่เข้าโจมตีมีจำนวนราว 50,000 คน ทั้งนี้ตามรายงานของแหล่งข่าวทางทหารทั้งฝ่ายอิรักและฝ่ายตะวันตก
การพังครืนลงอย่างรวดเร็วของพวกไอเอสในตอล อะฟาร์ ซึ่งเคยเป็นแหล่งบ่มเพาะสำคัญของกลุ่มนักรบญิฮาดหลายๆ กลุ่ม กลายเป็นเครื่องยืนยันรายงานของฝ่ายทหารอิรักที่ว่า พวกไอเอสไม่ค่อยมีโครงสร้างในการบังคับบัญชาและในการควบคุมอะไรแล้ว ในแถบพื้นที่ทางด้านตะวันตกของเมืองโมซุล
ขณะที่ชาวบ้านชาวเมืองซึ่งหลบหนีออกจากตอล อะฟาร์ หลายวันก่อนการรุกใหญ่คราวนี้เริ่มต้นขึ้น บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า พวกนักรบไอเอสบางส่วนดูมีอาการ “เหนื่อยอ่อน” และ “หมดแรง”
กองกำลังอาวุธชั้นนำของฝ่ายรัฐบาล สามารถปลดปล่อยพื้นที่บริเวณใจกลางเมืองได้ตั้งแต่วันเสาร์ (26) และได้ชักธงชาติอิรักขึ้นเหนืออาคารป้อมปราการที่ตั้งอยู่กลางเมือง ฝ่ายทหารระบุ ทั้งนี้ ป้อมซึ่งสร้างขึ้นในยุคจักรวรรดิออตโตมันแห่งนี้ ถูกทำลายเสียหายไปมากโดยพวกไอเอสเมื่อปี 2014
ทีมงานด้านภาพของรอยเตอร์ได้ไปเยือนป้อมแห่งนี้ในวันอาทิตย์ (27) และได้เห็นส่วนต่างๆ จำนวนมากของตัวป้อมอยู่ในสภาพเสียหายหนัก
“เราพยายามที่จะผลักดันพวกนักรบหัวรุนแรงออกไป โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายนัก” เป็นคำบอกเล่าของสมาชิกกองกำลังอาวุธชาวชีอะห์ผู้หนึ่งซึ่งกำลังร่วมรบกับกองกำลังรัฐบาลอิรัก และขอไม่ให้ระบุชื่อ “เราใช้เพียงแค่พวกอาวุธเบา”
ทหารอิรักซึ่งอยู่ในเมืองตอล อะฟาร์ เมื่อวันอาทิตย์ (27) อยู่ในอาการเฉลิมฉลองที่สามารถยึดเมืองนี้กลับคืนมา พวกเขานำเอาธงไอเอสออกจากจุดสูงๆ ในย่านใจกลางเมือง และถ่ายภาพโดยแสดงการล้อเลียนนักรบญิฮาดเหล่านี้
การสู้รบแทบอยู่ในสภาพชะงักหยุดนิ่งในวันเสาร์ (26) โดยมีเพียงเสียงปืนใหญ่คำรามออกมาบ้างเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ไม่มีร่องรอยของพลเรือนในเขตที่อยู่อาศัยต่างๆ ซึ่งรอยเตอร์ไปเยือนทั้งในวันเสาร์และวันอาทิตย์
เชื่อกันว่าผู้คนชาวเมืองจำนวนหลายหมื่นคนได้หลบหนีไปแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนยุทธการคราวนี้จะเริ่มต้นขึ้น ขณะที่พวกกลุ่มองค์กรสงเคราะห์ช่วยเหลือตลอดจนชาวเมืองที่หลบหนีออกมาได้เล่าว่า พลเรือนที่ยังเหลืออยู่ในเมืองถูกพวกไอเอสข่มขู่คุกคามว่าจะฆ่าให้ตาย
ตอล อะฟาร์ เผชิญวัฏจักรความรุนแรงของผู้คนต่างนิกายศาสนา นั่นคือ ระหว่างชาวสุหนี่กับชาวชีอะห์ มาหลายรอบแล้ว ภายหลังจากกองทหารที่นำโดยสหรัฐฯบุกเข้ารุกรานอิรักเมื่อปี 2003 และพื้นที่แถบนี้ได้กลายเป็นสถานที่บ่มเพาะผู้บังคับบัญชาระดับอาวุโสสูงสุดของไอเอสบางคน