เอเอฟพี - อามัก สำนักข่าวโฆษณาชวนเชื่อของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) ว่า “ทหารของกลุ่ม” เป็นผู้ลงมือโจมตีนองเลือด ขับรถตู้ไล่ชนผู้คนคร่าชีวิตอย่างน้อย 13 ศพในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
อามัก เปิดเผยผ่านบัญชีแอปพลิเคชันแชต “เทเลแกรม” ระบุว่า “ผู้ก่อเหตุโจมตีบาร์เซโลนา เป็นทหารของรัฐอิสลาม (ไอเอส)” อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพาดพิงถึงชื่อของบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี
สำนักข่าวอามักระบุด้วยว่า ทหารเหล่านั้นลงมือโจมตีตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องให้โจมตีในรัฐเป้าหมายต่างๆ ที่เข้าร่วมพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งกำลังสู้รบกับพวกญิฮาดกลุ่มนี้ในอิรักและซีเรีย
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายในวันพฤหัสบดี (17) เมื่อผู้ขับขี่คนหนึ่งจงใจขับรถตู้พุ่งชนผู้คนบนถนนพลุกพล่านที่สุดของเมืองบาร์เซโลนา ในเหตุการณ์ที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นเหตุโจมตีก่อการร้าย
ตำรวจเผยว่าพวกเขาจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คนหลังเหตุโจมตี ซึ่งก่อความตื่นตระหนกไปทั่วถนนสายต่างๆภายในเมืองใหญ่ที่สุดของสเปนและเรียกเสียงประณามจากเหล่าผู้นำโลก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงพีกสุดของฤดูกาลท่องเที่ยวในบาร์เซโลนา หนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของยุโรป ซึ่งมีผู้มาเยือนอย่างน้อย 11 ล้านคนในแต่ละปี
ทั้งนี้ เหตุพวกนักรบอิสลามิสต์ใช้ยานพาหนะพุ่งชนผู้คนเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งทั่วยุโรป นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016 ทั้งในเมืองนีซ, เบอร์ลิน, ลอนดอน และสตอกโฮล์ม คร่าชีวิตผู้คนรวมกันกว่า 100 ศพ
ไอเอสซึ่งครั้งหนึ่งเคยประกาศสถาปนาการปกครองแบบกาหลิบเหนือพื้นที่ยึดครองอันกว้างขวางคร่อมดินแดนซีเรียและอิรัก ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม กองกำลังของอิรักภายใต้การสนับสนุนของพันธมิตรนานาชาติ สามารถยึดคืนเมืองโมซุล ป้อมปราการสำคัญของไอเอสในอิรัก ทั้งนี้พันธมิตรฯบอกว่าการสูญเสียโมซุล คือความปราชัยครั้งสำคัญของกลุ่มนักรบ แต่ไม่ได้หมายความว่าการทำสงครามกับพวกญิฮาดดำเนินมาถึงจุดจบแล้ว