xs
xsm
sm
md
lg

สเปนช็อก! เหตุรถตู้ไล่ชนผู้คนในบาร์เซโลนา คร่าชีวิตมากถึง 13 ศพ โลกออนไลน์แพร่คลิปวินาทีแตกตื่นหนีตาย (ชมวิดีโอ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online







รอยเตอร์ - ยืนยันยอดเหยื่อจากเหตุรถตู้พุ่งชนผู้คนย่านกลางเมืองบาร์เซโลนาเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) พุ่งเป็น 13 ศพ ในเหตุการณ์ที่ตำรวจเข้าจัดการในฐานะคดีก่อการร้าย ขณะที่โลกออนไลน์เผยแพร่คลิปวินาทีประชาชนแตกตื่นหนีตายวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

เบื้องเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่าจนถึงตอนนี้ยืนยันผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 32 คน แต่สถานีวิทยุ Cadena Ser อ้างแหล่งข่าวตำรวจระบุว่ายอดเหยื่อที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก

ตำรวจเผยว่าพวกเขากำลังตามล่าคนขับรถตู้ ซึ่งเชื่อว่าเดินเท้าหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ ส่วนหนังสือพิมพ์ El Periodico รายงานว่ามีชายติดอาวุธ 2 คน เข้าไปหลบภายในบาร์แห่งหน่งในย่านกลางเมืองบาร์เซโลนาและมีข่าวลือเกี่ยวกับเสียงปืนดังขึ้นในพื้นที่ แต่ไม่ชัดเจนเหตุการณ์ทั้ง 2 มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่รัฐบาลในแคว้นกาตาลุญญา ระบุผ่านทวิตเตอร์ ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 13 รายและบาดเจ็บมากกว่า 50 คน ขณะที่ตำรวจปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามือโจมตีเข้าไปหลบในบาร์แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ และเผยว่าจับกุมผู้ต้องสงสัยไว้ 2 คน แต่คนขับยังคงหลบหนีอยู่

สื่อมวลชนรายงานว่า รถตู้วิ่งซิกแซ็กไปมาด้วยความเร็วบนถนนลารัมบลาส แหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ก่อนพุ่งชนผู้คน “ผมได้ยินเสียงกรีดร้องและจากเห็นฝูงชนแตกกันไปคนละทิศละทาง รถตู้พ่งเข้ามากลางถนนรัมบลาส และผมรู้ทันทีว่ามันเป็นเหตุโจมตีก่อการร้ายหรืออะไรสักอย่างทำนองนั้น” ทอม กูเอลเลอร์ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกกับบีบีซี “รถไม่ชะลอความเร็วเลย มันพุ่งตรงฝ่ากลางฝูงชนบนถนนรัมบลาส”

ภาพวิดีโอที่ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึก พบเห็นเหยื่อหลายคนกระจัดกระจายอยู่ตามถนนรัมบลาส บางรายนอนไม่ไหวติง แพทย์และผู้เห็นเหตุการณ์เข้าไปดูและช่วยรักษาพวกเขา รวมถึงพยายามปลอบประโลมให้ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่

ในอีกวิดีโอหนึ่งพบเห็นผู้คนอยู่ในอาการแตกติ่น วิ่งหนีเข้าไปในร้านค้าและซูเปอร์มาร์เกตด้วยความหวาดหวาต่อภัยก่อการร้าย ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความสับสน หลังพบเห็นรถตู้แล่นชนคนอื่นๆ บนถนนลารัมบลาส

หน่วยฉุกเฉินเตือนประชาชนไม่ควรเดินทางไปยังพื้นที่แถวๆ จัตุรัสพลาซาคาตาลันยา หนึ่งในจัตุรัสหลักของเมือง และร้องขอให้ปิดสถานีรถไฟและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน

นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอย บอกว่าเขากำลังติดต่อประสานงานกับพวกเจ้าหน้าที่ และเป้าหมายลำดับแรกคือให้ความสนใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้นยังไม่มีคำยืนยันเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ แต่ทางตำรวจบอกว่าพวกเขากำลังจัดการกับเหตุการณ์นี้ในฐานะเหตุโจมตีก่อการร้าย

เหตุการณ์นี้เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากเหล่าผู้นำนานาชาติ ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เสนอมอบความช่วยเหลือกับสเปน “สหรัฐฯ ขอประณามเหตุโจมตีก่อการร้ายในบาร์เซโลนา สเปน และจะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่จำเป็น” ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์

ด้านเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส บอกว่าฝรั่งเศสขอเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสเปน ตามหลังเหตุโจมตีอันน่าเศร้าในบาร์เซโลนา ส่วนนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ ประกาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างสเปนในการต่อต้านก่อการร้าย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงพีคสุดของฤดูกาลท่องเที่ยวในบาร์เซโลนา หนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของยุโรป ซึ่งมีผู้มาเยือนอย่างน้อย 11 ล้านคนในแต่ละปี

ทั้งนี้เหตุพวกนักรบอิสลามิสต์ใช้ยานพาหนะพุ่งชนผู้คนเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งทั่วยุโรป นับตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2016ทั้งในเมืองนีซ, เบอร์ลิน, ลอนดอน และสตอกโฮล์ม คร่าชีวิตผู้คนรวมกันกว่า 100 ศพ

ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเปิดเผยกับสกายนิวส์ว่า “สถานการณ์ตกอยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงอย่างฉับพลัน ผู้คนเริ่มวิ่งกรีดร้อง มีเสียงปังๆ ดังขึ้นหลายครั้ง ผู้คนวิ่งหนีเข้าไปในร้านค้า มันเหมือนกับเหตุการณ์เหยียบกันขนาดย่อมๆ”

ชายรายนี้เผยด้วยว่า เขากับคนอื่นๆ อีกหลายสิบคนเข้าไปหลบในโบสถ์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ “พวกเขาล็อกประตู เพราะผมไม่แน่ใจว่าคนที่ก่อเหตุถูกจับไปแล้วจริงหรือไม่ ดังนั้นพวกเขาจึงล็อกประตู และบอกผู้คนให้รออยู่ภายใน”

เจ้าหน้าที่ในเมืองวิค เมืองเล็กๆ รอบนอกบาร์เซโลนา บอกว่าพบรถตู้คันหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีแล้ว หลังจากสื่อมวลชนสเปนรายงานก่อนหน้านี้ว่า คนร้ายใช้รถตู้คันที่ 2 เป็นยานพาหนะสำหรับหลบหนี

บาร์เซโลนาเป็นเมืองเอกของแคว้นกาตาลุญญา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน ซึ่งมีแผนจัดลงประชามติในวันที่ 1 ตุลาคม ตัดสินว่าจะแยกตัวออกจากสเปนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขากำลังพิพาทกับรัฐบาลกลาง ซึ่งบอกว่าประชามติดังกล่าวไม่สามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ด้วยยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน 13 ศพ ทำให้มันกลายเป็นเหตุโจมตีนองเลือดที่สุดในสเปนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2004 โดยหนนั้นพวกนักรบอิสลามิสต์ซุกระเบิดถล่มขบวนรถไฟในมาดริด คร่าชีวิตผู้คน 191 ศพ และบาดเจ็บกว่า 1,800 คน


กำลังโหลดความคิดเห็น