เอเอฟพี - น้ำท่วมและดินถล่มคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 91 ศพและอีกกว่า 110 คนยังสูญเสียในศรีลังกา ขณะที่มรสุมถาโถมเข้ามาในวันศุกร์ (26 พ.ค.) ซัดพาห่าฝนหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมาถล่มหลายพื้นที่ของเกาะ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
ศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติ (DMC) แห่งศรีลังกา เปิดเผยว่าประชาชนราว 20,000 คน ขึ้นรถหลบหนีออกจากที่พักอาศัยในพื้นที่แถบภาคใต้และภาคตะวันตกของประเทศ “มีบางพื้นที่ที่เราเข้าไปไม่ถึง แต่ปฏิบัติการบรรเทาทุกกำลังดำเนินการอยู่” ดูเนช กันคันดา รัฐมนตรีช่วยรัฐมนตรีช่วยกระทรวงบริหารจัดการภัยพิบัติบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงโคลัมโบ
ข้อมูลของศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 91 ราย และอีก 110 คนยังสูญหาย หลังได้รับรายงานเพิ่มเติมจากพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงก่อนหน้านี้
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองรัตนปุระ ศูนย์กลางอัญมณีของประเทศ เนื่องจากแม่น้ำคาลูล้นทะลักตลิ่งและไหลเข้าท่วมเมืองหลัก ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโคลอมโบ ไปทางตะวันออกแค่ราวๆ 100 กิโลเมตร
บ้านเรือนประชาชนเกือบ 500 หลังได้รับความเสียหายบางส่วนหรือพังทั้งหลัง จากผลกระทบของอุทกภัยเช่นเดียวกับดินถล่ม จากการเปิดเผยกับเอเอฟพีของ พล.ร.ต. เอ.เอ.พี. ลิยานจ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติ พร้อมเผยว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเหยื่อของเหตุดินถล่มตามเชิงเขาที่พังครืนลงมาทับบ้านเรือนประชาชน
กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า สถานการณ์ฝนเลวร้ายสุดอาจผ่านพ้นไปแล้ว แต่อาจเกิดกระแสน้ำไหลบ่าในช่วงไม่กี่วันข้างหน้าและเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งอพยพครอบคลุมประชาชนหลายหมื่นคน
รัฐบาลได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวตามโรงเรียนและอาคารสาธารณะอื่นๆ สำหรับรองรับประชาชนซึ่งมีที่อยู่อาศัยตามพื้นที่ราบต่ำ ขณะที่กองทัพได้ประจำการทหารหลายพันนายเพื่อเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกค้าง ส่วนกองทัพอากาศได้ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว
ศรีลังกาได้เรียกร้องไปยังประชาคมนานาชาติ ในนั้นรวมถึงสหประชาชาติและเหล่าประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังพบจำนวนผู้เสียชีวิตและสูญหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“กระทรวงการต่างประเทศจะคอยจับตาสถานการณ์น้ำท่วมและเสาะหาความช่วยเหลือตามความจำเป็นภายใต้การปรึกษากับกระทรวงบริหารจัดการภัยพิบัติ” รัฐบาลระบุในถ้อยแถลง
เหตุอุทกภัยครั้งนี้ถือว่าเป็นหนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2003 โดยน้ำท่วมใหญ่คราวนั้นได้คร่าชีวิตผู้คนไป 250 ศพและทำลายบ้านเรือนไปกว่า 10,000 หลัง