รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยวานนี้ (24 ส.ค.) ว่ามีชาวอเมริกันอย่างน้อย 16 รายล้มป่วยจากปรากฏการณ์ปริศนาภายในสถานทูตที่คิวบา ขณะที่สื่อหลายสำนักเรียกขานสิ่งผิดปกติที่คุกคามสวัสดิภาพของนักการทูตอเมริกันว่า “คลื่นเสียงพิฆาต” (acoustic attack)
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศออกมายอมรับว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันซึ่งทำงานอยู่ในสถานทูตสหรัฐฯ ที่กรุงฮาวานาเกิดความผิดปกติทางด้านร่างกาย ซึ่งมีสาเหตุจากปรากฏการณ์บางอย่างที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2016
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เพื่อนร่วมงานที่สถานทูตฮาวานาหลายคนถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯ หลังเกิดปัญหาทางการได้ยินและอาการผิดปกติอื่นๆ บางรายถึงกับต้องใช้เครื่องช่วยฟัง
ฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (24) ว่ามีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และครอบครัวล้มป่วยไปไม่น้อยกว่า 16 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่วอชิงตันไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
“เรายืนยันได้ว่ามีพนักงานสถานทูตอย่างน้อย 16 คนเกิดอาการผิดปกติทางด้านร่างกาย” เนาเอิร์ท ระบุ
เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ถูกส่งเข้ารับการรักษาทั้งในสหรัฐฯ และคิวบา และมีบางคนที่แม้จะป่วยแต่ก็ยังตัดสินใจปฏิบัติงานในกรุงฮาวานาต่อไป
สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสรายงานในสัปดาห์นี้ว่า ชาวอเมริกันและแคนาดาหลายคนที่ทำงานในคิวบามีอาการสูญเสียการได้ยิน อาเจียน ปวดศีรษะ และทรงตัวลำบาก บางรายอาการรุนแรงถึงขั้นสมองบาดเจ็บอย่างอ่อนๆ (mild traumatic brain injury) และระบบประสาทส่วนกลางได้รับความเสียหาย
ซีบีเอสยังอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่านักการทูตเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีด้วยคลื่นเสียงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เนาเอิร์ทยืนยันว่า “เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแล้ว”
รัฐบาลคิวบายืนกรานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประหลาดดังกล่าว และกำลังสอบสวนสิ่งที่สหรัฐฯ กล่าวหา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เองก็ไม่ได้โทษว่าเป็นฝีมือรัฐบาลฮาวานา แต่ได้สั่งขับนักการทูตคิวบา 2 รายออกจากวอชิงตันเมื่อเดือน พ.ค.