รอยเตอร์ - รัฐมนตรีเศรษฐกิจไต้หวันประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ หลังเกิดวิกฤตไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ตั้งแต่ค่ำวันอังคาร (15 ส.ค.) และลากยาวถึงบ่ายวันรุ่งขึ้น ส่งผลกระทบประชาชนเกือบ 7 ล้านครัวเรือนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ด้านประธานาธิบดีไต้หวันแถลงขอโทษประชาชน และรัฐบาลตั้งทีมสอบสวนหาสาเหตุของเรื่องนี้แล้ว
เหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดของไต้หวันเพิ่งจะได้รับการแก้ไขให้กลับเป็นปกติอย่างสมบูรณ์เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ (16) หลังจากประชาชนหลายล้านครัวเรือน สำนักงานและโรงงานมากมายบนเกาะที่มีพลเมืองเกือบ 24 ล้านคน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ตั้งแต่ค่ำวันอังคาร
อย่างไรก็ดี บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) ผู้รับจ้างผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกและซัปพลายเออร์สำคัญของแอปเปิล เผยว่า ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เช่นเดียวกับเปกาทรอน ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์อีกราย
นายกรัฐมนตรีหลิน ชวน ให้คำมั่นว่า จะตั้งคณะกรรมการอิสระจากภายนอกตรวจสอบเครือข่ายจ่ายไฟฟ้าของประเทศ โดยที่เขาไปตอบกระทู้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตนเองที่รัฐสภา
ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่หลายรายระบุว่า จะมีการจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อสอบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งนี้
ประชาชนพากันร้องโอดเนื่องจากต้องเผชิญสภาพอากาศร้อนที่อุณหภูมิอยู่ในราว 32 องศาเซลเซียส โดยที่ เหตุการณ์คราวนี้ยังสร้างความเสียหายเมื่อร้านอาหารและธุรกิจขนาดเล็กต่างไม่มีไฟฟ้าใช้ สัญญาณไฟจราจรบนท้องถนนหยุดทำงาน รวมทั้งลิฟต์ของอาคารต่างๆ ก็หยุดชะงัก
ทางด้าน ซีพีซี ที่เป็นรัฐวิสาหกิจด้านซัปพลายเออร์แก๊ส แถลงว่า สาเหตุของไฟฟ้าดับมาจาก “ปัญหาเชิงโครงสร้าง” และความผิดพลาดของมนุษย์เกี่ยวกับการเปลี่ยนอุปกรณ์ ซึ่งที่สุดแล้วส่งผลต่อการดำเนินงานของ ไต้หวัน พาวเวอร์ รัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้า
ซีพีซีเสริมว่า จะจ่ายค่าชดเชยให้ไต้หวัน พาวเวอร์ และขอแสดงความรับผิดชอบที่เกิดเหตุการณ์คราวนี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงิน
ด้านไต้หวัน พาวเวอร์แถลงว่า ปัญหาไฟฟ้าดับทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 6 ตัวในโรงไฟฟ้าของตนที่เมืองเถาหยวนทางตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน หยุดทำงาน และทำให้กระแสไฟฟ้าทั่วเกาะไต้หวันถูกตัด
ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ได้โพสต์ข้อความขออภัยผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าการจ่ายกระแสไฟฟ้าถือเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องอธิบายให้ได้ว่า ความผิดพลาดจุดเดียวสามารถสร้างความเสียหายต่อระบบจ่ายไฟฟ้าทั่วประเทศได้อย่างไร
“เราจะต้องปฏิรูประบบเสียใหม่ ดิฉันถือว่านี่เป็นจุดสำคัญที่จะต้องตรวจสอบและปฏิรูปอย่างจริงจังในอนาคต”
ต่อมา ไช่ ยังออกคำแถลงในวันพุธ (16) ขอโทษประชาชนอีกครั้ง พร้อมระบุว่า เครือข่ายการจ่ายกระแสไฟฟ้าถือเป็นประเด็นความมั่นคงระดับชาติ และย้ำความสำคัญในการสร้างหลักประกันความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานของเกาะแห่งนี้
ทางด้าน หลี่ จื้อคัง รัฐมนตรีเศรษฐกิจไต้หวัน ประกาศสละตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนายกรัฐมนตรี หลิน ก็ได้ยอมรับการลาออกของเขาแล้ว
ทั้งนี้ หลี่ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจได้เพียงปีเศษๆ และรัฐบาลได้มอบหมายให้เสิ่น จงชิน รัฐมนตรีช่วยว่าการเศรษฐกิจ เป็นผู้ดูแลกระทรวงนี้ เป็นการชั่วคราว
ขณะที่ สือ กว๋อหยุง โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า สำหรับคำถามที่ว่า ประธานกรรมการของไต้หวัน พาวเวอร์ และของ ซีพีซี ควรลาออกจากตำแหน่งหรือไม่นั้น น่าจะมีคำตอบหลังจากที่ทั้งคู่ออกมาแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้
เหตุการณ์ไฟดับครั้งนี้ถือว่า รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในไต้หวันนับจากที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 1999
