xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” ขู่ผู้นำเวเนฯ เจอ “คว่ำบาตร” แน่ ถ้าขืนตั้งสภาแก้รัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา
รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงขู่วานนี้ (17 ก.ค.) ว่าสหรัฐฯ จะใช้บทลงโทษที่ “หนักหน่วงและรวดเร็ว” กับเวเนซุเอลา หากประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ยังขืนเดินหน้าจัดการเลือกตั้งสภาประชาชนเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ (Constituent Assembly) ในวันที่ 30 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการลิดรอนอำนาจอันชอบธรรมจากรัฐสภาซึ่งฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก

ทำเนียบขาวเผยแพร่คำแถลงของทรัมป์ ที่ระบุว่า “เมื่อวานนี้ ชาวเวเนซุเอลาได้ประกาศชัดเจนอีกครั้งว่าพวกเขาจะยืดหยัดเคียงข้างประชาธิปไตย เสรีภาพ และหลักนิติธรรม แต่การต่อสู้ที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพวกเขากลับถูกเพิกเฉยโดยผู้นำแย่ๆ ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเผด็จการ”

“สหรัฐฯ จะไม่นิ่งเฉยและปล่อยให้เวเนซุเอลาล่มสลาย หากระบอบมาดูโรจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 ก.ค. สหรัฐฯ ก็จะมีมาตรการตอบโต้ที่หนักหน่วงและรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว

ฝ่ายต่อต้านมาดูโร เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ และพยายามขัดขวางการตั้งสภาประชาชน ซึ่งอาจกลายเป็นเครื่องมือของมาดูโร ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามใจชอบ และยึดอำนาจไปจากสภานิติบัญญัติที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่

เมื่อวันอาทิตย์ (16) ชาวเวเนซุเอลาราว 7 ล้านคนที่สนับสนุนฝ่ายค้านได้ไปลงคะแนนโหวตอย่างไม่เป็นทางการร้อยละ 98 คัดค้านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ

มาดูโร อ้างว่าสถานการณ์ในเวเนซุเอลาขณะนี้เป็นแผนของสหรัฐฯ ที่ยุยงให้ฝ่ายค้านก่อความวุ่นวายเพื่อทำลายเศรษฐกิจ และโค่นอำนาจรัฐบาลสังคมนิยม

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยกับรอยเตอร์เมื่อเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาคว่ำบาตรอุตสาหกรรมพลังงานของเวเนซุเอลา รวมถึงรัฐวิสาหกิจน้ำมัน PDVSA เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลมาดูโรที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามฝ่ายตรงข้าม

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้มีการพูดคุยถึงมาตรการตอบโต้ต่างๆ และหนึ่งในนั้นก็คือการพุ่งเป้าเล่นงานอุตสาหกรรมน้ำมัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 95% ของรายได้จากการส่งออกทั้งหมดของเวเนซุเอลา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยอมรับว่าสหรัฐฯ จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะบทลงโทษลักษณะนี้จะยิ่งซ้ำเติมวิกฤตภายในเวเนซุเอลาให้เลวร้ายลงไปอีก และทุกวันนี้ชาวเวเนซุเอลาหลายล้านคนก็ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคและภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงอยู่แล้ว

อีกปัจจัยหนึ่งที่วอชิงตันจะมองข้ามไปไม่ได้ก็คือ ผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันที่นำเข้าสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเวเนซุเอลาเป็นซัปพลายเออร์ใหญ่อันดับ 3 รองจากแคนาดา และซาอุดีอาระเบีย และคิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 8 ในเดือน มี.ค. ตามข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ

กำลังโหลดความคิดเห็น