รอยเตอร์ – การเจรจาการค้าเพื่อลดยอดขาดดุลของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน เริ่มปรากฏผลให้เห็นบ้างแล้ว ทว่า บริษัทอเมริกันชี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำขณะที่เส้นตายแผนปฏิบัติการ 100 วันสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ (16 ก.ค.)
การเจรจาซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายน ส่งผลให้จีนเปิดตลาดรับเนื้อจากอเมริกาครั้งแรกในรอบ 14 ปี รวมทั้งตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) จากอเมริกา นอกจากนั้น บริษัทอเมริกันยังสามารถเข้าถึงภาคบริการการเงินบางส่วนของแดนมังกร
โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงว่า จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของสองประเทศจะเปิดการเจรจาการค้าประจำปีที่วอชิงตันในชื่อ “การเจรจาด้านเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างสหรัฐฯ และจีน” แต่ไม่ได้ระบุว่า จะมีการหารือเพื่อเริ่มข้อตกลงใหม่ในภาคใด หลังจากประกาศข้อตกลงเปิดตลาดเนื้อวัว ไก่ บริการการเงิน และแอลเอ็นจีไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม
ข้อตกลงดังกล่าวเป็นผลต่อเนื่องมาจากการเยือนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในเดือนเมษายน ซึ่งผู้นำจีนตกปากรับคำกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการ 100 วันในการเจรจาการค้าเพื่อกระตุ้นการส่งออกของอเมริกา และลดยอดขาดดุลการค้าที่อเมริกามีต่อจีน
ปีที่แล้ว อเมริกาขาดดุลการค้าจีนเป็นมูลค่า 347,000 ล้านดอลลาร์ และช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นอีกราว 5.3% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา
จาค็อบ แพคเกอร์ รองประธานสภาธุรกิจอเมริกา-จีน (ยูเอสซีบีซี) ในปักกิ่งชี้ว่า แม้มีความคืบหน้าที่ดีแต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อให้การเจรจาการค้าสองประเทศบรรลุผลสำเร็จ
สิ่งที่แพคเกอร์กล่าวอาจพาดพิงถึงประเด็นการค้าที่สร้างความขุ่นเคืองมากที่สุด เช่น ข้อเรียกร้องของอเมริกาให้จีนลดกำลังผลิตเหล็กกล้าและอลูมิเนียม การที่บริษัทอเมริกันไม่สามารถเข้าถึงตลาดการเงินจีน และข้อจำกัดด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ที่ปิดกั้นการส่งออกสินค้าไฮเทคไปยังจีน
คณะบริหารของทรัมป์กำลังพิจารณาการเรียกเก็บภาษีอย่างครอบคลุมหรือการกำหนดโควตาเหล็กกล้าและอลูมิเนียมภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ส่วนหนึ่งเพื่อตอบโต้เหล็กกล้าและอลูมิเนียมที่จีนผลิตออกมาจนล้นตลาดโลกและฉุดราคาดิ่งลง
ทรัมป์ยังนำความคืบหน้าด้านการค้าไปโยงกับความสามารถของจีนในการกำราบเกาหลีเหนือ ซึ่งมีปักกิ่งเป็นพันธมิตรหลักเพียงชาติเดียว
ปัจจุบัน เนื้อวัวจากอเมริกาเข้าไปวางจำหน่ายในตลาดจีนซึ่งมีมูลค่าถึง 2,600 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกนับจากปี 2003 ที่เกิดวิกฤตโรควัวบ้า
เกง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันศุกร์ (14 ก.ค.) แสดงความหวังว่า การเจรจาการค้าจะมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทว่าไม่ได้ระบุรายละเอียดมากกว่านี้
ขณะเดียวกัน จีนเพิ่งส่งเนื้อไก่ปรุงสำเร็จไปยังท่าเรือสหรัฐฯ หลังจากเจรจากันอยู่นานหลายปี แต่ปัญหาก็คือ ผู้แปรรูปสัตว์ปีกจีนไม่ได้รับออร์เดอร์จากอเมริกาเป็นล่ำเป็นสันเหมือนกับที่ชาวแดนมังกรต้อนรับเนื้ออเมริกันอย่างล้นหลาม
หลี่ เว่ย ผู้จัดการฝ่ายส่งออกของชิงต่าว ไนน์ อัลไลแอนซ์ กรุ๊ป ผู้ส่งออกสัตว์ปีกแปรรูปรายใหญ่ของจีน แสดงความหวังว่า ดีมานด์น่าจะกระเตื้องขึ้นหลังจากจีนได้รับอนุญาตให้จัดส่งเนื้อไก่ที่เลี้ยง แปรรูป และปรุงสุกในจีนไปยังอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายภาคอุตสาหกรรมของจีนที่มีความคืบหน้าน้อยมากแม้ถูกอเมริกากดดันให้เปิดตลาด เช่น ปักกิ่งเพิ่งอนุมัติพืชจากเทคโนโลยีชีวภาพ 2 จาก 8 ชนิดและยังอยู่ในขั้นตอนรอการอนุมัตินำเข้า แม้มีการระดมผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบพืชเหล่านั้นมาสองรอบในช่วง 6 สัปดาห์ก็ตาม
เจ้าหน้าที่จากภาคอุตสาหกรรมอเมริกันแสดงความคาดหวังว่า จีนจะเพิ่มรายการพืชที่ได้รับอนุมัติ ขณะที่ผู้บริหารอเมริกันหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการตรวจสอบของจีนขาดความโปร่งใส
บริการภาคการเงินเป็นอีกส่วนที่มีความคืบหน้าน้อยมาก ปาร์คเกอร์บอกว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า อีกนานแค่ไหนกว่าที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของต่างชาติ หรือบริการการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของอเมริกา จะได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการในจีน
นอกจากนั้นการเจรจาทวิภาคียังไม่ครอบคลุมข้อจำกัดการลงทุนของต่างชาติในธุรกิจการประกันชีวิตและการซื้อขายหลักทรัพย์ในจีน รวมถึงความท้าทายอีกมากมายที่บริษัทต่างชาติต้องเผชิญในสภาพแวดล้อมการบังคับใช้กฎหมายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีน
ในรายงานประจำปีของหอการค้าอเมริกันที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) สรุปสั้นๆ ว่า จีนยังคงเป็น “ตลาดที่ค้าขายยาก”