รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - น้ำมันขึ้น 8 วันติดเมื่อวันจันทร์ (3 ก.ค.) หลังพบการขุดเจาะของสหรัฐฯ ลดลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปัจจัยนี้ประกอบกับหุ้นกลุ่มธนาคารดันเอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ปิดบวก ขณะที่ทองคำปรับลดจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 91 เซ็นต์ ปิดที่ 49.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันศุกร์ (30 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน เผยแพร่ข้อมูลที่ระบุว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เดินเครื่องลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ก่อความคาดเดาว่าพวกผู้ผลิตน้ำมันชั้นหินอาจกำลังประสบปัญหา ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ตกต่ำยาวนาน
ข้อมูลดังกล่าว ตอกย้ำตัวเลขก่อนหน้านี้ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ที่ระบุเมื่อวันพุธ (28 มิ.ย.) ว่ากำลังผลิตรายสัปดาห์ของประเทศลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน
เอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ ขยับขึ้นในวันจันทร์ (3 ก.ค.) จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร แต่ภาคเทคโนโลยีฉุดให้แนสแดคปิดลบ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 129.64 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,479.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.60 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,429.01 จุด แนสแดค ลดลง 30.36 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,110.06 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุน หลังจากราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาปรับขึ้นเป็นวันที่ 8 ทำสถิติปิดบวกต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่หุ้นกลุ่มภาคการเงิน ที่ปิดบวก 1.3 เปอรเซ็นต์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ขับเคลื่อนเอสแอนด์พี500และดาวโจนส์เมื่อวันจันทร์ (3 ก.ค.)เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แนสแดคปิดลบ หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังขยับลงต่อเนื่อง โดยในวันจันทร์(3ก.ค.) ปรับลดอีก 0.9 เปอร์เซนต์ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลงไปเกือบ 3 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายในวันจันทร์ (3 ก.ค.) ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ จะหยุดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ ในวันอังคาร (4 ก.ค.)
ด้านราคาทองคำในวันจันทร์ (3 ก.ค.) ขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์ สาเหตุจากดอลลาร์ฟื้นตัว หลังร่วงลงหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 23.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,219.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
