เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันขยับลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันศุกร์(18ธ.ค.) จากข้อมุลที่บ่งชี้ถึงกำลังผลิตที่ยังแข็งแกร่งในสหรัฐฯ ปัจจัยทางพลังงานฉุดวอลล์สตรีทดิ่งแรง ส่วนทองคำพุ่งขึ้น หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียตหรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 22 เซนต์ ปิดที่ 34.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 18 เซนต์ ปิดที่ 36.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทสำรวจและขุดเจาะเชื้อเพลิงรายใหญ่ของโลก รายงานว่ามีแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ปฏิบัติการเพิ่มเติม 17 แห่งในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ธันวาคม เป็น 541 แท่น ข้อมูลที่ก่อความกังวลว่ากำลังผลิตจะยังคงสูงลิ่ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(18ธ.ค.) ปิดสัปดาห์แห่งความผันผวนในแดนลบ ส่วนหนึ่งเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ขยับลงอย่างต่อเนื่อง
ดาวโจนส์ ลดลง 367.29 จุด (2.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.128.55 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 36.34 จุด (1.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,005.55 จุด แนสแดค ลดลง 79.47 จุด (1.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,923.08 จุด
ราคาน้ำมันที่แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปียังคงเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักวิเคราะห์บอกว่าการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษของเฟดเมื่อวันพุธ(16ธ.ค.) ยิ่งกระพือให้วอลล์สตรีทผันผวนหนักขึ้น
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์(18ธ.ค.) พุ่งแรง จากดอลลาร์อ่อนค่าลง หนึ่งวันหลังขยับขึ้นแรงตามหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,065.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์