รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันจันทร์ (20 มี.ค.) กังวลอุปทานและคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดทรงตัว ด้วยความหวั่นเกรงว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ อาจใช้เวลานานกว่าคาด ขณะที่ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 56 เซ็นต์ ปิดที่ 48.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 14 เซ็นต์ ปิดที่ 51.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขยับสู่แดนบวกช่วงสั้นๆ หลังแหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าโอเปกกำลังพิจารณาขยายกรอบเวลาลดกำลังผลิตเข้าสู่ครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ต่อมาราคาก็แกว่งสู่แดนลบ จากความกังวลต่อแนวโน้มอุปทานที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ หลังพบกิจกรรมขุดเจาะเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจาก เบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) พบว่า ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว มีแท่นขุดเจาะน้ำมันเดินเครื่องเพิ่มเติม 14 แท่นในสหรัฐฯ เป็น 631 แท่น บ่งชี้แนวโน้มกำลังผลิตที่สูงขึ้นในอเมริกา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (20 มี.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ หลังนักลงทุนกังวลว่าแผนลดภาษีและกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้เวลานานกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้
ดาวโจนส์ ลดลง 8.76 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,905.86 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.78 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,373.47 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.53 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,901.53 จุด
วอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวขาขึ้นเริ่มสะดุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลต่อความไม่ชัดเจนในข้อเสนอปฏิรูปภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบของเขา
ในวันจันทร์ (20 มี.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ต่างปิดในแดนลบ ท่ามกลางข้อสงสัยว่าวอชิงตันจะสามารถบังคับใช้มาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบภาคธนาคารได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (20 มี.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่ก็แตะระดับสูงสุดในรอบราว 2 สัปดาห์เศษ จากดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังสหราชอาณาจักรพร้อมแล้วที่จะออกจากสหภาพยุโรป โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,234.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์