รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้น 6 วันติดในวันพฤหัสบดี (29 มิ.ย.) ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทลงหนักถูกฉุดโดยกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 19 เซ็นต์ ปิดที่ 44.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 11 เซ็นต์ ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (28 มิ.ย.) ซึ่งพบว่ากำลังผลิตน้ำมันดิบโดยรวมของประเทศ ลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มิถุนายน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบแรงในวันพฤหัสบดี (29 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ร่วงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หนักหน่วงที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ จากแรงฉุดของกลุ่มเทคโนโลยี ที่บดบังความเข้มแข็งของภาคธนาคาร
ดาวโจนส์ ลดลง 167.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,287.03 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.99 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,419.70 จุด แนสแดค ลดลง 90.06 จุด (1.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,144.35 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลดลง 1.8 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นภาคหลักๆ ที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุด จากแรงฉุดของหุ้นบริษัทใหญ่ๆ อย่างเช่น แอปเปิล และไมโครซอฟท์
ที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ทะยานขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 15% แต่ในเดือนนี้ได้ร่วงลงแล้วเกือบ 2%
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (29 มิ.ย.) ปิดลบ เหตุอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงดีดตัวต่อเนื่อง ทำนักลงทุนเมินถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างทองคำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,245.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์