เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้คำมั่น จีนจะทำงานเพื่อรับประกัน “อนาคตอันกว้างไกล” ของฮ่องกง ขณะเดินทางถึงเกาะแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี (29 มิ.ย.) เพื่อฉลองวาระครบรอบ 20 ปีที่เขตบริหารพิเศษนี้คืนสู่อ้อมอกแดนมังกร ท่ามกลางการต้อนรับที่ทั้งอบอุ่นจากประชาชนที่ยังคงมีความรู้สึกที่ดีต่อปักกิ่ง และการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องต้องการประชาธิปไตยและไม่พอใจการปกครองของจีน
อังกฤษยินยอมส่งคืนฮ่องกงกลับสู่การปกครองของจีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 ภายใต้สูตร “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” ที่รับประกันว่า ชาวฮ่องกงจะได้รับเสรีภาพและอิสระแห่งตุลาการแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจีนแผ่นดินใหญ่
ปักกิ่งยังให้สัญญาว่า ระบบทุนนิยมของฮ่องกงจะคงอยู่อย่างน้อยอีก 50 ปีจนถึงปี 2047 แต่ไม่ได้บอกว่า หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
ในทันทีที่ลงจากเครื่องบิน ณ ท่าอากาศยานเช็กแลปก๊อกเมื่อวันพฤหัสบดี (29) ประธานาธิบดีสีหยอดคำหวานว่า “ฮ่องกงอยู่ในใจผมตลอดมา” ต่อหน้าฝูงชนและพวกผู้นำของฮ่องกงที่มารอต้อนรับ
สีสำทับว่า จีนจะสนับสนุนพัฒนาการของฮ่องกง และปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเช่นที่เป็นมาเสมอ และหวังว่า ฮ่องกงจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์อีกครั้ง รวมทั้งรับประกันว่า หลักการ “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” อยู่บนเส้นทางที่ยั่งยืนและมั่นคง
ทว่ากลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งจำนวนมากเป็นคนรุ่นหนุ่มสาว โดยที่หลายคนมุ่งเรียกร้องให้ฮ่องกงแยกตัวเป็นเอกราชด้วย วิพากษ์โจมตีว่าหลักการดังกล่าวบ่อนทำลายเสรีภาพ และปักกิ่งยื่นมือแทรกแซงกิจการทุกอย่างของฮ่องกง ตั้งแต่การเมือง การศึกษา จนถึงสื่อมวลชน
การเยือนฮ่องกงเป็นเวลา 3 วันของสีมีขึ้นท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีการปิดพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งส่งตำรวจนับพันคนควบคุมสถานการณ์เพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรงจากกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนความกังวลของปักกิ่งที่ไม่ต้องการให้การเยือนของสีมีจุดด่างพร้อยใดๆ ก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศปลายปีนี้ เพื่อสนับสนุนสถานะผู้นำที่ทรงอำนาจที่สุดของจีนในหนึ่งชั่วอายุคนของสี
การเยือนฮ่องกงของสีครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนในปี 2013 ยังเกิดขึ้นหลังการประท้วงใหญ่ของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่เรียกตัวเองว่า “ขบวนการร่ม” ที่ยืดเยื้อนานหลายเดือนเมื่อปี 2014 ก่อนที่จะแผ่วปลายและฝ่อไปเองในที่สุด
เมื่อคืนวันพุธ (28) มีนักเคลื่อนไหวกว่า 20 คน ซึ่งรวมถึงโจชัว หว่อง ผู้นำนักศึกษาคนดัง และนาธาน หลอ สมาชิกรัฐสภารุ่นใหม่ ยังถูกควบคุมตัวอยู่หลังถูกจับกุมด้วยข้อหาก่อความรำคาญต่อสาธารณะระหว่างการประท้วง
ระหว่างเดินทางถึงสนามบิน สีเพิกเฉยต่อคำถามของนักข่าวบางคน ซึ่งรวมถึงคำถามที่ว่า หลิว เสี่ยวโป เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพที่ต่อต้านรัฐบาลจีน จะได้รับการปล่อยตัวและได้รับอนุญาตให้เดินทางไปรักษามะเร็งในต่างประเทศหรือไม่
ในเวลาต่อมา สีได้พบเหลียง ชุนอิง ที่กำลังจะพ้นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงที่เป็นผู้รับมือกับการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2014 โดยประมุขแดนมังกรยกย่องเหลียงว่า อุทิศตัวให้ฮ่องกงและปกป้องอธิปไตยของชาติ
นอกจากนั้น ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ สียังมีกำหนดร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงคนใหม่ของแครี ลัม ซึ่งจะเป็นผู้นำหญิงคนแรกของเกาะแห่งนี้
คาดกันว่า พวกนักเคลื่อนไหวจะจัดการประท้วงใหญ่เนื่องในวาระครบรอบการคืนสู่อ้อมอกจีนในวันที่ 1 กรกฎาคม หลังจากสีเดินทางกลับแล้ว โดยที่จะมีการเรียกร้องประเด็นทางสังคมต่างๆ และเรียกร้องประชาธิปไตย
แกนนำการประท้วงออกคำแถลงโจมตีว่า คนฮ่องกงถูกหลอกมาตลอด 20 ปีกับคำสัญญาของจีนในการเปิดทางให้ประชาชนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไป และถึงเวลาแล้วที่ฮ่องกงจะทวงคืนประชาธิปไตยเต็มใบที่แท้จริง
ทั้งนี้ ฮ่องกงไม่เคยมีการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเลย แม้กระทั่งในระหว่างอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ ข้าหลวงที่ปกครองก็เป็นคนอังกฤษและได้รับแต่งตั้งมาจากลอนดอน
ขณะที่นักกิจกรรมหนุ่มสาวประกาศเดินหน้าประท้วงระหว่างที่สีอยู่บนเกาะฮ่องกง แต่ยังมีประชาชนอีกกลุ่มใหญ่ที่บอกว่า จะร่วมเฉลิมฉลองการเยือนของประมุขแดนมังกร โดยมีการจัดเวทีสำหรับกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ ในบริเวณจัตุรัสตรงข้ามศูนย์ประชุม ท่ามกลางฝูงชนที่ตื่นเต้นยินดีและไปชุมนุมกันตั้งแต่ก่อนที่สีจะเดินทางถึงฮ่องกง
ชายวัย 38 ปีคนหนึ่งบอกว่า ในฐานะประชาชนในเมืองเล็กๆ อย่างฮ่องกง เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับการมาเยือนของผู้นำหมายเลขหนึ่งของจีน และทิ้งท้ายว่า หลายอย่างในวันนี้ดีกว่าสมัยที่อยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ