เอเจนซีส์ - กองทัพฟิลิปปินส์ระบุในวันพุธ (28 มิ.ย.) ว่าดูเหมือนจะมีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก ในช่วง 5 สัปดาห์ที่เมืองมาราวีถูกกลุ่มติดอาวุธยึดเอาไว้ อันเป็นผลจากความโหดเหี้ยมของลูกสมุนไอเอสกลุ่มนี้
เรสติตูโต พาดิลลา โฆษกของกองทัพฟิลิปปินส์ ระบุว่า จำนวนชาวเมืองมาราวีที่เสียชีวิต 27 ราย เป็นเพียงตัวเลขที่ทางการสามารถยืนยันได้ แต่ผู้ที่หลบหนีการสู้รบออกมาจากเมืองบอกว่าพบเห็นชาวบ้านตายเยอะกว่านั้นมาก
“ตัวเลขที่มีอยู่ตอนนี้คือ 27 และมันอาจจะเพิ่มขึ้นได้อีกมาก ตอนที่เราได้ตรวจสอบข้อมูลนี้อีกครั้ง มีคนพบว่าตัวเลขมันมากกว่านี้เยอะ แต่เรายังไม่สามารถนับรวมเข้าไปได้” เขากล่าวในการแถลงข่าว
เขาบอกว่า สาเหตุของการเสียชีวิตนั้นเป็นเพราะการกระทำที่โหดเหี้ยมของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งมีทั้งการบังคับพลเรือนให้ปล้นสะดมตามบ้าน บังคับให้จับอาวุธขึ้นสู้กับทางการ รวมถึงถูกบังคับให้กลายเป็นทาสบำเรอกาม
อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพฟิลิปปินส์ดูไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดถึงความเป็นไปได้เรื่องผลกระทบจากการสู้รบที่ส่งผลต่อพลเรือนนั้นอาจหนักหนามากกว่าที่ถูกรายงานไว้
พวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศและการยิงถล่มด้วยปืนครกเข้าใส่ที่มั่นของพลซุ่มยิงฝ่ายกบฏที่เกิดขึ้นทุกวัน จนทำให้เมืองริมทะเลสาปแห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง แถมยังทำให้ชาวบ้านที่ติดอยู่ในเมืองพากันตื่นตระหนก บางรายถึงขนาดบอกว่ากระสุนปืนครกนั้นเป็นภัยคุกคามมากกว่าพวกกลุ่มติดอาวุธเสียอีก
การสู้รบที่เมืองมาราวีเข้าสู่วันที่ 36 ในวันพุธ (28 มิ.ย.) โดยที่มีการยิงและทิ้งบอมบ์กันอย่างในแถบใจกลางเมือง สามารถพบเห็นพวกกบฏในชุดดำวิ่งไปมาตามอาคารต่างๆ
สำหรับประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์อย่างฟิลิปปินส์ มาราวีคือเมืองเดียวของที่นั่น ที่รัฐบาลยกให้เป็นสถานที่ของอิสลาม เนื่องจากมีประชากรชาวมุสลิมในเมืองนั้นเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.) ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ได้บอกว่า ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะเตรียมสู้รบกันแบบยาวนานกับพวกกบฏ “มาอูเต” ที่มีอาวุธครบมือ ทั้งยังกระหายการฆ่าและทำลาย
“ไอ้พวกนี้บางคนมันเคยไปตะวันออกกลาง รับแนวคิดเลอะเทอะกลับมาบ้าน แล้วประกาศสงครามกับมนุษยชาติ” เขากล่าว
กองทัพยอมรับว่า ชาวบ้านที่อยู่ในศูนย์อพยพเริ่มที่จะเหนื่อยหน่ายอ่อนล้า แต่ทหารจำเป็นจะต้องขอเวลาอีกสักระยะเพื่อขจัดพวกคนร้ายและเข้าควบคุมเมืองมาราวี
จนถึงตอนนี้มีทหารเสียชีวิตไปแล้ว 71 ราย ส่วนฝ่ายกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิต 299 ราย นับตั้งแต่เริ่มมีการต่อสู้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ทำให้คนประมาณ 246,000 รายต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน