เอเอฟพี - พรรคสายกลางของประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง กวาดชัยชนะถล่มทลายในศึกเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสรอบตัดสินเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) แม้จะได้จำนวนผู้แทนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม ขณะที่นักการเมืองหญิงขวาจัด มารีน เลอแปน จากพรรคเนชันแนลฟรอนท์ (FN) ก็คว้าที่นั่งในสภาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก แต่อาจจะเป็นชัยชนะที่ขมขื่น เนื่องจากพรรคของเธอนั้นชิงที่นั่ง ส.ส.มาได้เพียง 8 คน
ผลการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นแล้วพบว่า พรรค ลา เรปุบบลิก ออง มาร์ช (REM) ของ มาครง และพรรคพันธมิตร MoDem กวาดจำนวน ส.ส.ไปได้ทั้งสิ้น 351 ที่นั่ง จากทั้งหมด 577 ที่นั่งในรัฐสภาเมืองน้ำหอม ซึ่งยังต่ำกว่าที่โพลบางสำนักคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะได้มากถึง 470 ที่นั่ง
ผลการเลือกตั้งคราวนี้ทำให้ มาครง วัย 39 ปี กลายเป็นผู้นำรัฐบาลฝรั่งเศสที่ครองเสียงข้างมากที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเพิ่มอาณัติให้แก่เขาในการผลักดันนโยบายปฏิรูปที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ศึกเลือกตั้งรอบสองนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิแค่ร้อยละ 44 ซึ่งทำให้ฝ่ายต่อต้าน มาครง ใช้เป็นข้ออ้างว่าประธานาธิบดีหนุ่มไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ในประเทศ
ชัยชนะในศึกเลือกตั้งรัฐสภาจะปูทางให้ประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของฝรั่งเศสผู้นี้ เริ่มต้นมาตรการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ และนำความพ่ายแพ้หมดรูปมาสู่พรรคโซเชียลลิสต์ของอดีตประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมาล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการว่างงานและความวุ่นวายในสังคมจนประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่น
พรรคโซเชียลลิสต์ได้ ส.ส.มาเพียง 29 นั่ง ลดลงจากที่เคยครองอยู่เดิมมากกว่า 250 ที่นั่ง
“พรรคโซเชียลลิสต์ของเราพ่ายแพ้ราบคาบอย่างไม่อาจปฏิเสธได้” ฌ็อง-คริสตอฟ ก็องบาเดลีส์ ประธานพรรคโซเชียลลิสต์ซึ่งหลุดเก้าอี้ ส.ส.ไปในศึกเลือกตั้งรอบแรกให้สัมภาษณ์ และประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเมื่อค่ำวานนี้ (18)
รีพับลิกันสายอนุรักษนิยมยังคงรั้งสถานะพรรคฝ่ายค้านหลักเอาไว้ได้ด้วยจำนวน ส.ส.131 ที่นั่ง ลดลงจากเดิมที่เคยมีอยู่ 200 ที่นั่งในสภาชุดที่แล้ว
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยังถือเป็นการพลิกโฉมรัฐสภาฝรั่งเศสให้เต็มไปด้วย ส.ส.รุ่นใหม่ๆ จากหลากหลายเชื้อชาติ และมี ส.ส.หญิงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 223 คน
