xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้แก๊ง “มาครง” ชนะขาดเลือกตั้งสภาผู้แทนฯ ฝรั่งเศสรอบแรก มีแนวโน้มกวาด ส.ส.เกิน 400 ที่นั่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรรอบแรกที่เมือง เลอ ตูเกต์ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.
เอเอฟพี - กลุ่มพันธมิตรของประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง ส่อแววกวาดชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส หลังผลการโหวตรอบแรกที่จัดขึ้นวานนี้ (11 มิ.ย.) ปรากฏว่าบรรดาพรรคการเมืองกระแสหลักยังคงเสียกระบวน ไม่อาจฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เพิ่งผ่านมา

สถาบันโพลต่างๆ คาดการณ์ว่า พรรค ลา เรปุบลิก อ็อง มาร์ช (REM) ของ มาครง และพรรคพันธมิตร MoDem จะกวาดที่นั่ง ส.ส. ไปได้ระหว่าง 400-455 จากทั้งหมด 577 ที่นั่ง หลังเสร็จสิ้นการโหวตรอบสองในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (18 มิ.ย.) ซึ่งนั่นหมายความว่า รัฐบาลผสมของ มาครง จะสร้างสถิติครองเสียงข้างมากสูงสุดในรอบ 60 ปี

นายกรัฐมนตรีเอดูอาร์ด ฟิลิปเป ได้ออกมาประกาศชัยชนะ โดยกล่าวว่า “ฝรั่งเศสกลับมาแล้ว”

“ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีได้แสดงความมั่นใจ เจตนารมณ์ และความกล้าหาญ ทั้งในฝรั่งเศสและในเวทีโลก” ฟิลิปเปกล่าว พร้อมยกความดีความชอบให้แก่ “ยุทธศาสตร์แห่งชัยชนะ” ของมาครง

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเลือกตั้งรัฐสภาคราวนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิน้อยเป็นประวัติการณ์เพียง 49% สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายศัตรูที่พยายามสกัดดาวรุ่ง มาครง ยังคงมีอิทธิพลอยู่มากพอสมควร

พรรครีพับลิกันสายอนุรักษนิยมถูกคาดหมายว่าจะได้จำนวน ส.ส.ระหว่าง 70-130 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเนชันแนล ฟรอนท์ (FN) ของ มารีน เลอแปน น่าจะได้ไปเพียง 1-10 ที่นั่ง

ฟลอเรียน ฟิลิปโปต์ รองประธานพรรค FN ยอมรับว่ารู้สึก “ผิดหวัง” กับคะแนนที่ออกมา และเรียกร้องให้ประชาชนที่เป็นฐานเสียงของพรรคระดมพลังให้ได้มากกว่านี้ในศึกเลือกตั้งรอบสอง

ด้านพรรคโซเชียลลิสต์ของอดีตประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ก็มีแนวโน้มจะต้องปราชัยอย่างหมดรูป โดยได้ ส.ส.ไม่เกิน 200 ที่นั่ง แม้แต่ประธานพรรค ฌ็อง-คริสตอฟ ก็องบาเดลีส์ กับอดีตผู้สมัครประธานาธิบดีเบอนัวต์ อามง ก็คาดว่าจะสูญเสียเก้าอี้ด้วย

ก็องบาเดลีส์ ยอมรับว่า คะแนนนิยมของพรรคโซเชียลลิสต์ตกต่ำชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเรียกร้องให้ชาวฝรั่งเศสหันมาเทคะแนนเลือกพรรคคู่แข่งของ มาครง เพื่อป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีผูกขาดอำนาจ มิเช่นนั้นรัฐสภาฝรั่งเศส “จะขาดอำนาจตรวจสอบ และการอภิปรายถกเถียงตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง”

ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อกลางดึกวันนี้ (12 มิ.ย.) พบว่า พรรค REM และ MoDem กวาดคะแนนเสียงไปได้ถึง 32.32% ในศึกเลือกตั้งรอบแรก ขณะที่พรรครีพับลิกันได้คะแนนราวๆ 21.56% และพรรค FN ได้ไป 13.20%

ทั้งนี้ คาดว่าจะมี ส.ส.เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเลือกโดยตรงตั้งแต่รอบแรก โดยการได้ที่นั่งในสภานั้น ผู้สมัครจะต้องได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง และอย่างน้อย 1 ใน 4 ของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงที่ลงทะเบียน และหากในเขตนั้นๆ ไม่มีผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงเกิน 50% ขึ้นไป ผู้ที่เข้าวินเป็นอันดับ 1 และ 2 จะต้องไปแข่งกันอีกครั้งในศึกเลือกตั้งรอบสอง รวมถึงผู้สมัครอันดับรองลงมาที่ได้คะแนนอย่างน้อย 12.5% ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ลงทะเบียน

มาครง วัย 39 ปี ซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของฝรั่งเศสได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่มีคนจากพรรคฝ่ายขวาและซ้ายเข้ามาร่วมทำงาน และยังแสดงบทบาทเป็นผู้นำยุโรปในการต่อต้านจุดยืนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรื่องปัญหาสภาพอากาศ

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ได้ออกมาแสดงความยินดีกับ “ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” ของ มาครง เมื่อวันอาทิตย์ (11)

ทั้งนี้ หากมีการยืนยันในสัปดาห์หน้าว่ากลุ่มของมาครงสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้เกิน 400 คน เขาก็จะสามารถผลักดันนโยบายปฏิรูปแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคม ที่เคยให้สัญญาเอาไว้ในช่วงหาเสียงได้อย่างสบายๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น