เอเจนซีส์ – พบศพลูกเรืออเมริกันที่สูญหาย 7 นายจากเหตุเรือพิฆาต "ยูเอสเอส ฟิตซ์เจอรัลด์" ชนกับเรือบรรทุกสินค้าติดธงฟิลิปปินส์นอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อช่วงเช้ามืดวันเสาร์ (17 มิ.ย.) ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ชนกัน อย่างไรก็ตาม สถานีทีวีเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เรือสินค้าลำดังกล่าวหักเลี้ยวกะทันหันเพียงไม่นานก่อนชนกัน
เรือและเครื่องบินของสหรัฐฯ รวมถึงของญี่ปุ่น ได้ร่วมกันใช้ปฏิบัติการค้นหาทางอากาศและทางทะเลครั้งใหญ่ตั้งแต่วันเสาร์ หลังเกิดการชนกันระหว่างเรือฟิตซ์เจอรัลด์และเรือเอซีเอ็กซ์คริสตัล ซึ่งในวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.) กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ แถลงว่า พบศพลูกเรือทั้ง 7 นายในส่วนห้องพัก 2 ห้องที่ถูกน้ำไหลเข้าท่วม และได้ส่งไปยังโรงพยาบาลโยโกสุกะเพื่อระบุอัตลักษณ์แล้ว จะมีการเปิดเผยรายชื่อลูกเรือทั้ง 7 หลังจากที่แจ้งข่าวไปยังครอบครัวของลูกเรือเหล่านี้
สำหรับเรือฟิตซ์เจอรัลด์นั้นถูกลากกลับไปยังฐานทัพเรือโยโกสุกะ ทางใต้ของโตเกียวตั้งแต่ช่วงค่ำวันเสาร์ ส่วนเรือเอซีเอ็กซ์คริสตัล ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงฟิลิปปินส์ เข้าเทียบท่าโออิของโตเกียว เจ้าพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบสวนลูกเรือของเรือลำนี้แล้ว
รายงานระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนบนเรือฟิตซ์เจอรัลด์ที่ถูกส่งตัวไปพบแพทย์ ในจำนวนนั้นมีผู้บัญชาการเรือ "ไบรซ์ เบนสัน" ที่ล่าสุดอาการทรงตัวแล้ว หลังถูกนำขึ้นเครื่องบินไปยังโรงพยาบาลทหารเรือของสหรัฐฯ ที่ฐานทัพโยโกสุกะ ส่วนลูกเรืออีกสองคนมีแผลถูกของมีคมบาดและฟกช้ำ
กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ แถลงว่า การชนครั้งนี้ทำให้บริเวณห้องพักสองห้อง ห้องเครื่องและห้องวิทยุของเรือฟิตซ์เจอรัลด์ได้รับความเสียหาย มีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมขัง โดยขณะเกิดเหตุนั้น ลูกเรือส่วนใหญ่จากกว่า 200 นายยังนอนหลับพักผ่อนอยู่
ขณะที่ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นหัวเรือทางกราบซ้ายของเรือเอซีเอ็กซ์ยุบและมีรอยครูด แต่โครงสร้างเรือไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
พลเรือตรี ชาร์ลส์ วิลเลียมส์ ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจทางนาวีในภูมิภาคเอเชีย แถลงเมื่อวันเสาร์ แสดงความชื่นชมต่อความกล้าหาญและความทรหดอดทนของลูกเรือฟิตซ์เจอรัลด์ ที่ช่วยกันระบายน้ำออก รักษาการทรงตัวของเรือ และนำเรือกลับไปยังโยโกสุกะ แม้ต้องใช้ความพยายามอย่างมากก็ตาม
ทางด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตขอบคุณญี่ปุ่นที่ให้ความช่วยเหลือในการค้นหาลูกเรือที่สูญหาย พร้อมเป็นกำลังใจให้ลูกเรือฟิตซ์เจอรัลด์และครอบครัว
แม้ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แต่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เรือเอซีเอ็กซ์ คริสตัลหักเลี้ยวกะทันหันก่อนชนไม่นาน
นิปปอน ยูเซ็น เคเค บริษัทญี่ปุ่นที่เช่าเหมาลำเรือขนส่งสินค้าลำนี้ แถลงว่า จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนของหน่วยยามฝั่งอย่างเต็มที่ ส่วนลูกเรือฟิลิปปินส์ทั้ง 20 คนปลอดภัยดี
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ หารือกันเกี่ยวกับวิธีการสอบสวน โดยญี่ปุ่นได้รับอนุญาตให้ทำการสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ เนื่องจากเกิดขึ้นในน่านน้ำของตน ทว่าภายใต้ข้อตกลงสถานะกองกำลังของประเทศ อเมริกามีเขตอำนาจหลักในคดีที่เกี่ยวข้องกับเรืออย่างเช่นเรือฟิตซ์เจอรัลด์
หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นและกองทัพเรือสหรัฐฯ มีแผนสอบปากคำลูกเรือเอซีเอ็กซ์ และอาจมองว่าคดีนี้เป็นความประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบวิชาชีพ อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายในการเดินทาง
ด้วยน้ำหนักประมาณ 29,000 ตัน เรือเอซีเอ็กซ์ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับเรือฟิตซ์เจอรัลด์ที่มีน้ำหนักเพียง 8,315 ตัน ทั้งยังบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์กว่า 1,080 ตู้จากท่าเรือนาโกยาทางตะวันตกของญี่ปุ่นไปยังโตเกียว
เรือฟิตซ์เจอรัลด์เป็นส่วนหนึ่งของกองเรือ 8 ลำที่ประจำการอยู่ในโยโกสุกะ และเพิ่งเสร็จสิ้นการปรับปรุงและซ่อมแซมที่ใช้งบประมาณ 21 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เรือฟิตซ์เจอรัลด์เป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น "อาร์เลห์ เบิร์ก" เริ่มประจำการณ์ในปี 1995 แรกเริ่มประจำอยู่ในซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกส่งเข้าร่วมในกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีในสงครามอิรักปี 2003
เรือพิฆาตลำนี้ย้ายไปประจำการที่โยโกสุกะในปี 2004 อันเป็นส่วนหนึ่งของการรับมือภัยคุกคามจากขีปนาวุธทั่วโลก ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2011 ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในขณะนั้น ทำปฏิญญามะนิลากับ อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ในขณะนั้น โดยร่วมลงนามบนเรือลำนี้เพื่อสนับสนุนการเจรจาพหุภาคีว่าด้วยการแก้ไขข้อพิพาททางทะเล
เรือฟิตซ์เจอรัลด์มีบทบาทสำคัญในการตรวจตราคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธหลายระลอก และยังมีส่วนร่วมในปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ภายหลังเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2011