เอเจนซีส์ - หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ เริ่มสอบสวนลูกเรือคอนเทนเนอร์ฟิลิปปินส์ที่ชนกับเรือรบอเมริกันในน่านน้ำญี่ปุ่น ทำให้ลูกเรืออเมริกันเสียชีวิต 7 นายเมื่อวันเสาร์ (17 มิ.ย.) ขณะที่หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นสอบปากคำลูกเรือตากาล็อกไปแล้ว และกำลังเร่งคลี่คลายประเด็นการแจ้งเวลาเกิดเหตุที่คลาดเคลื่อน และการที่เรือลำนี้กลับลำกะทันหัน
เรือโท สกอตต์ คาร์ จากหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ เผยว่า จะเริ่มสอบปากคำลูกเรือเอซีเอ็กซ์ คริสตัลในวันอังคาร (20) เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เรือสินค้าของฟิลิปปินส์ลำนี้ชนกับเรือพิฆาตติดขีปนาวุธของสหรัฐฯ ยูเอสเอส ฟิตซ์เจอรัลด์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาท่ามกลางสภาพอากาศปลอดโปร่ง
นอกจากนี้ หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งรับหน้าที่สอบสวนในนามของคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ จะสอบสวนลูกเรือฟิตซ์เจอรัลด์ด้วย รวมทั้งรวบรวมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลการติดตามตำแหน่งเรือจากเรือคู่กรณีทั้งสองลำ
การสอบสวนจะครอบคลุมประเด็นเวลาที่ขัดแย้งกันในรายงานภายในของเรือเอซีเอ็กซ์ คริสตัลเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางใต้ของอ่าวโตเกียว
ทั้งนี้ หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นได้สอบปากคำลูกเรือฟิลิปปินส์แล้ว และกำลังสอบสวนว่า เหตุใดเรือลำนี้จึงรออยู่เกือบชั่วโมงก่อนที่จะรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น นอกจากนี้หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นยังอยู่ระหว่างการติดต่อกองทัพสหรัฐฯ เพื่อขอสอบปากคำลูกเรืออเมริกัน รวมทั้งขอข้อมูลจากเรือฟิตซ์เจอรัลด์
กองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า จะส่งข้อมูลการติดตามตำแหน่งเรือพิฆาตที่ถูกชนให้หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นหรือไม่
แรกทีเดียวนั้น หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นเชื่อว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.20 น.วันเสาร์ แต่ลูกเรือเอซีเอ็กซ์ คริสตัลกลับแจ้งในภายหลังว่า การชนเกิดขึ้นเวลา 01.30 น.
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยังกำลังวิเคราะห์ว่า เหตุใดเรือเอซีเอ็กซ์ คริสตัลจึงกลับลำ 180 องศาเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. และกลับลำอีกครั้งหลังรายงานอุบัติเหตุในเวลาประมาณ 02.20 น. ตามข้อมูลที่แสดงบนเว็บไซต์ Marine Traffic ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข้อมูลการติดตามตำแหน่งเรือทั่วโลก โดยขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เหตุใดเรือเอซีเอ็กซ์ คริสตัลจึงหักเลี้ยวกะทันหัน
สำหรับเรือฟิตซ์เจอรัลด์ไม่ได้ติดต่อหน่วยงานท้องถิ่นแต่อย่างใด แต่หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นวิทยุติดต่อไปหลังได้รับรายงานการชนครั้งแรก
ระหว่างที่เกิดการชนที่ทำให้เกิดแผลลึกใต้เส้นระดับน้ำข้างเรือด้านกราบขวา ลูกเรือฟิตซ์เจอรัลด์จำนวนมากยังหลับอยู่ และน้ำทะลักเข้าท่วมส่วนห้องพักลูกเรือสองห้อง ห้องวิทยุ และห้องเครื่อง เป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิต 7 นาย
อนึ่ง ตามกฎพาณิชยนาวีนั้น เรือลําที่มีเรือลําอื่นอยู่ทางกราบขวาของตนต้องหลีกทางให้
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวซักถามในวันอาทิตย์ (18) ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่า เรือฟิตซ์เจอรัลด์เป็นฝ่ายผิดหรือไม่ พลเรือโทโจเซฟ พี. ออคอยน์ ผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะคาดเดาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
การสอบสวนยังอาจมีความซับซ้อนจากประเด็นเขตอำนาจศาล เนื่องจากแม้อุบัติเหตุเกิดขึ้นในน่านน้ำญี่ปุ่น แต่กฎพาณิชยนาวีระหว่างประเทศอาจอนุญาตให้กองทัพเรือสหรัฐฯ มีอำนาจในการสอบสวนบางส่วน
เหตุการณ์นี้เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ นับจากที่เรือยูเอสเอส โคลถูกโจมตีด้วยระเบิดในเอเดนของเยเมนเมื่อปี 2000 ซึ่งมีลูกเรือเสียชีวิต 17 นาย และบาดเจ็บ 39 นาย