เอเอฟพี – องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุในวันนี้ (16) ว่า นักรบกลุ่มรัฐอิสลามอาจกำลังใช้พลเรือนอิรักกว่า 100,000 คนเป็นโล่มนุษย์ในเขตเมืองเก่าของโมซุล
กองกำลังอิรักกำลังต่อสู้เพื่อยึดคืนเมืองโมซุลจากกลุ่มไอเอส หลังจากนักรบกลุ่มนี้บุกโจมตีเมืองในปี 2014 และบังคับใช้กฎระเบียบป่าเถื่อนกับชาวเมือง
ผู้แทนของหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของยูเอ็นในอิรัก บรูโน เก็ดโด กล่าวว่า ไอเอสจับตัวพลเรือในการสู้รบนอกโมซุลและบังคับให้พวกเขาเข้ามาในเขตเมืองเก่า หนึ่งในพื้นที่สุดท้ายของเมืองนี้ที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขา
“พลเรือนกว่า 100,000 คนอาจยังคงถูกควบคุมอยู่ในเขตเมืองเก่า” เก็ดโด บอกกับผู้สื่อข่าวในเจนีวา
“เรารู้ว่าไอซิสเคลื่อนย้ายพวกเขาพร้อมกับพวกตัวเองในขณะที่พวกเขาออกจากพื้นที่ที่การสู้รบดำเนินอยู่” เขากล่าว โดยใช้เรียกกลุ่มไอเอสด้วยอีกชื่อย่อหนึ่ง
“พลเรือนเหล่านี้ถูกใช้เป็นโล่มนุษย์อย่างแท้จริงในเขตเมืองเก่า”
เนื่องจากไม่มีอาหาร น้ำ และไฟฟ้าเหลืองอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว พลเรือเหล่านี้จึงกำลัง “อยู่ในสถานการณ์ความขัดสนและตื่นตระหนกที่เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ” เขากล่าว และเสริมว่า “การสู้รบโอบล้อมพวกเขาทุกๆ ด้าน”
ในขณะที่พลแม่นปืนพยายามสังหารใครก็ตามที่พยายามหนีออกจากพื้นที่ภายใต้การควบคุมของไอเอส เขากล่าว และเสริมว่า ไม่กี่คนที่สามารถหลบหนีออกมาได้ “มีสภาวะจิตใจย่ำแย่มาก”
นับตั้งแต่การสู้รบเพื่อยึดคืนโมซุลเปิดฉากเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว มีประชาชนหลบหนีออกจากเมืองนี้ราว 862,000 คน ถึงแม้ว่า 195,000 คนจะกลับไปในภายหลังก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่ไปยังฝั่งตะวันออกของเมืองที่ได้รับการปลดแอกแล้ว
นั่นหมายความว่ายังคงมีผู้พลัดถิ่นอยู่ราว 667,000 เกือบทั้งหมดนั้นมาจากฝั่งตะวันตกของโมซุล และกำลังอาศัยอยู่ในค่าย 13 แห่งที่ก่อตั้งโดย UNHCR หรืออยู่กับครอบครัวเจ้าบ้าน
เก็ดโดกล่าวว่า จนถึงตอนนี้หน่วยงานยูเอ็นให้ความช่วยเหลือกับผู้พลัดถิ่นแล้วกว่า 500,000 คน และยังกำลังพยายามช่วยเหลือผู้ที่กลับไปยังโมซุล ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยในอาคารที่ถูกระเบิดทำลายไปแล้ว
“พวกเขาจำนวนมากกำลังกลับไปสู่สถานการณ์ความยากแค้น” เขาเตือน