เอเอฟพี - ทางการอินโดนีเซียยึดตัวนิ่มหลายร้อยตัวและเกล็ดของมันรวมมูลค่า 190,000 ดอลลาร์ (ราว 6.4 ล้านบาท) หลังการเปิดโปงปฏิบัติการลักลอบครั้งใหญ่ เจ้าหน้าที่กล่าวในวันนี้ (14 มิ.ย.)
ชายสองคนถูกจับกุมหลังจากเจ้าหน้าที่กองทัพเรือบุกค้นคลังสินค้าแห่งหนึ่งใกล้ท่าเรือบนเกาะสุมาตราเมื่อค่ำวานนี้ (13) หลังจากได้รับแจ้งว่ามันถูกใช้เพื่อเก็บสัตว์ป่าชนิดนี้ที่เรียกกันอีกชื่อว่า “ตัวกินมดมีเกล็ด”
พวกเขาพบตัวกินมดมีชีวิต 223 ตัว ตายแล้วและถูกแช่แข็ง 24 ตัว รวมถึงกระสอบใส่เกล็ดตัวนิ่ม 9 กระสอบ ซาฮาลา ซินากา โฆษกกองทัพเรือ บอกกับเอเอฟพี
เขากล่าวว่า สินค้าที่ถูกยึดใกล้เมืองมาดันครั้งนี้ที่กำลังถูกส่งไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียมีมูลค่าราว 2.5 พันล้านรูเปียห์ (ราว 190,000 ดอลลาร์)
มันเป็นหลักฐานสนับสนุนว่า การค้าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกล่ามากที่สุดในโลกนี้ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ทั้งๆ ที่มีการระดมความพยายามกวาดล้างแล้ว
เมื่อปีที่แล้ว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อ่อนโยนและรักสันโดษชนิดนี้ได้รับการปกป้องจากการค้าผิดกฎหมายระดับสูงสุดในการประชุมระดับโลกในแอฟริกาใต้
ซินาการะบุว่า ผู้ถูกควบคุมตัวที่อายุ 43 ปีทั้งคู่ถูกต้องสงสัยว่าเป็นผู้มีบทบาทรายย่อยในวงการนี้ พวกเขาอาจเผชิญโทษจำคุก 5 ปีและปรับ 100 ล้านรูเปียห์หากถูกพบว่ามีความผิดฐานฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าจริง
“พวกเขาอ้างว่าตัวนิ่มเหล่านี้จะถูกส่งไปยังมาเลเซีย” ซินากา กล่าว และเสริมว่า เกล็ดของพวกมันอาจถูกนำไปใช้เพื่อการผลิตเมทแอมเฟตามีนแบบผลึกใส
เกล็ดตัวนิ่มบางครั้งก็ถูกใช้ในการผลิตยาเสพติด เนื้อของมันก็มีราคาแพงด้วยเช่นกันเนื่องจากความละเอียดอ่อนของเนื้อสัมผัส และอวัยวะของมันถูกใช้เป็นส่วนประกอบยาแผนโบราณในบางส่วนของเอเชียและแอฟริกา โดยเฉพาะจีน
นี่เป็นเพียงกรณีการยึดตัวนิ่มจากผู้ลักลอบครั้งล่าสุดในอินโดนีเซีย เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วทางการพบตัวนิ่มกว่า 650 ตัวถูกซ่อนในตู้แช่แข็งบนเกาะหลักชวาและจับกุมผู้ต้องสงสัยหนึ่งคน
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติจัดให้ตัวนิ่มที่ถูกพบในแดนอิเหนาอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างร้ายแรง
ตัวนิ่มที่มีการมองเห็นไม่ดีนักแต่มีประสาทสัมผัสการดมกลิ่นและได้ยินดีมีเกล็ดทับซ้อนห่อหุ้มทั้งตัวและกินมดโดยใช้ลิ้นเหนียวสีชมพูที่ยาวเกือบเท่าตัวของมัน
