บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน 5 หมู่บ้านในบุรีรัมย์ที่ซื้อเนื้อวัวป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้าไปบริโภค แห่รับฉีดวัคซีนแล้ว 350 ราย จากทั้งหมดที่สัมผัสและบริโภค 381 ราย จำนวนนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง 35 ราย ด้าน สสจ.ต้องฉีดให้ครบทุกราย พร้อมชี้หลังฉีดวัคซีนครบ 5 ครั้งยังต้องเฝ้าติดตามอาการอีก 6 เดือนถึง 1 ปี
วันนี้ (6 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบุรีรัมย์ 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 1, 2, 9, 10 และหมู่ 11 ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ที่ซื้อเนื้อวัวชำแหละป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้าไปบริโภค ยังทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สำโรงอย่างต่อเนื่อง รวมแล้ว 350 คน จากที่มีผู้สัมผัสและบริโภคเนื้อวัวดังกล่าวรวมทั้งหมดจำนวน 381 คน ส่วนที่เหลืออีก 31 คนยังไม่มาฉีดวัคซีน ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประชาสัมพันธ์ติดตามให้มารับการฉีดวัคซีนให้ครบทุกรายเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ทั้งนี้ จากการซักประวัติและคัดกรองในเบื้องต้นแล้วพบว่าในจำนวนผู้ที่สัมผัสและบริโภคเนื้อวัวทั้ง 381 คน แยกเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 35 คน กลุ่มนี้เป็นผู้สัมผัสโดยตรง ทั้งชำแหละ และบริโภคแบบสุกๆ ดิบๆ ดังนั้น กลุ่มนี้จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนในปริมาณเพิ่มขึ้น และต้องฉีดให้ครบตามกำหนดทั้ง 5 ครั้งด้วยเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคระบาดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสามารถระบาดระหว่างสัตว์สู่คนได้
นายสุริยา รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ภายหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับผู้ที่สัมผัส และบริโภคเนื้อวัวที่ติดเชื้อครบตามกำหนดทั้ง 5 ครั้งแล้วยังต้องเฝ้าติดตามอาการอีก 6 เดือนถึง 1 ปี หากชาวบ้านรายใดพบว่ามีอาการผิดปกติ อย่างเช่น มีไข้ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย กระสับกระส่าย กลัวแสงกลัวลม หนาวสั่น ตาเบิกโพลงบ่อยๆ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาโดยเร็ว เพราะหากติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้วรักษาไม่ทัน อาจเกิดอาการชักเกร็ง เป็นอัมพาต หมดสติและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นกลุ่มดังกล่าวต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด