เอเจนซีส์ – เชื่อว่าจะเป็นการขนส่งปศุสัตว์ทางอากาศครั้งมโหฬารที่สุดในโลก เมื่อนักธุรกิจกาตาร์ เมาตาซ อัล เคย์ยาต ท้าทายการปิดล้อมของริยาด ประกาศขนวัวนมสายพันธุ์โฮลสไตน์(Holstein) 4,000 ตัวแบบเป็นๆเข้าทางอากาศ กะเริ่มต้นผลิตนมให้ทันในสิ้นเดือนนี้ คาดอาจต้องใช้ถึง 60 เที่ยวกว่าจะขนหมด เจ้าของไอเดียลั่น “ถึงเวลาแล้วต้องทำเพื่อกาตาร์”
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานวันนี้(13 มิ.ย)ว่า เมาตาซ อัล เคย์ยาต(Moutaz Al Khayyat) ประธานบริษัทพาวเวอร์ อินเตอร๋เนชันแนล โฮลดิง (Power International Holding) เปิดเผยแผนการกับสื่อธุรกิจบลูมเบิร์กว่า คาดว่า อาจต้องใช้เที่ยวบินถึง 60 เที่ยวถึงจะขนวัวโคนมสายพันธุ์โฮลสไตน์(Holstein)ถึง 4,000 ตัวเข้ากาตาร์ได้ทั้งหมด เกิดขึ้นหลังจากที่กาตาร์เปิดช่องทางฉุกเฉินทางอากาศและทางทะเลผ่านทางอิหร่าน ตุรกี และท่าขนส่งในโอมาน
ทั้งนี้วัวทั้งหมดจะถูกใช้เพื่อผลิตน้ำนมป้อนผู้บริโภคในประเทศ เดอะการ์เดียนชี้
ในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก เขาระบุว่า โคนมเหล่านี้ถูกซื้อมาจากสหรัฐฯและออสเตรเลีย และประกาศว่า “นี่เป็นเวลาที่ต้องทำเพื่อกาตาร์” โดยสื่อธุรกิจชี้ว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์นมและนมสดส่วนใหญ่นั้นถูกส่งเข้ามาจากซาอุดีอาระเบียจนกระทั่ง 1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น และทำให้นมภายในราชอาณาจักรเริ่มขาดแคลน
ทั้งนี้กาตาร์ถูกซาอุดีอาระเบีย และพันธมิตรคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และสั่งปิดพรมแดนกับกาตาร์ทันทีในวันที่ 5 มิ.ย ทำให้โดฮาจำเป็นต้องหันไปพึ่งตุรกี อิหร่าน และโมร็อกโกในการส่งอาหารเข้าประเทศแทน หลังก่อนหน้านั้นโดฮาต้องนำเข้าอาหาร 90 % จากประเทศเพื่อนบ้านอ่าวอาหรับ รวมไปถึงซาอุฯ ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่มีพรมแดนติดต่อกับกาตาร์ทางบก
สื่ออังกฤษชี้ว่า ตุรกีได้ส่งอาหารกลับเข้าชั้นวางขายในซุปเปอร์มาเก็ตในการ์ตาแทนที่ ที่รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต และลีเบน (leben) หรือผลิตภัณฑ์นมหมักแบบอาหรับ ในขณะที่อิหร่านและโมร็อกโกเสนอตัวจะช่วยส่งเข้าด้านอาหาร
นอกจากนี้ในมาตรการเร่งด่วน พบว่าโดฮายังได้เจรจากับท่าขนส่งในโอมาน 2 แห่งคือ ท่าโซฮาร์(Sohar) และท่าซาลาลาห์(Salalah) เพื่อที่จะทำให้สินค้าที่จะส่งเข้ากาตาร์ไม่ต้องหยุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่พบว่าเที่ยวขนส่งผ่านท่าเจเบล อาลี(Jebel Ali)ของยูเออีถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางต่อในสัปดาห์ที่ผ่านมา
บลูมเบิร์กรายงานว่า โครงการผลิตน้ำนมของนักธุรกิจกาตาร์รายนี้คือความพยายามที่จะเริ่มต้นผลิตนมสดในประเทศ ที่จะต้องเริ่มให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้แทนที่จะเป็นเดือนกันยายน และจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการนมในประเทศให้ได้ถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมดภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ อัล เคย์ยาตแถลงในสำนักงานของเขาที่ตั้งอยู่ในกรุงโดฮา
และพบว่าสิ่งต่าๆงสำหรับวัวโคนมของอัล เคย์ยาตพร้อมแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเขาต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักจากค่าใช้จ่ายการขนส่งวัวทั้งหมดเข้าประเทศ ที่เพิ่มสูงขึ้น 5 เท่าไปอยู่ที่ 8 ล้านดอลลาร์
นักธุรกิจผู้มีความรักชาติได้กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “ไม่มีใครในชีวิตประจำวันของเขาที่จะรู้สึกถึงวิกฤต” และกล่าวต่อว่า “รัฐบาลกาตาร์ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้น”
ทั้งนี้เดอะการ์เดียนชี้ว่า ความพยายามในการที่จะฝ่าวงล้อมของซาอุฯที่ใช้ข้อหาโดฮาสนับสนุนผู้ก่อการร้าย ทำให้เห็นว่าในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมารัฐบาลกาตาร์ได้ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศของตัวเองบินด่วนไปกรุงมอสโก กรุงลอนดอน และเยอรมัน เพื่อหาเสียงสนับสนุนจากประชาคมโลก
ในขณะเดียวกันในวันอาทิตย์(11 มิ.ย) อิหร่านศัตรูของซาอุฯ ประกาศส่งความช่วยเหลือด้วยเครื่องบิน 5 ลำที่ขนพืชผักและผลไม้เข้าไปช่วยกาตาร์ และนอกจากนี้ยังมีเรืออีก 3 ลำที่จะขนอาหารหนัก 350 ตันมีกำหนดจะส่งเข้ากรุงโดฮาหลังจากนี้